MGR Online - ผบ.ตร.ยอมรับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกมีจริง จตช.ลุยสอบรู้ผลใน 15 วัน จ่อตั้งชุดเฉพาะกิจลุยปราบ รีเช็กการทำงาน จนท. ลั่นไม่อยากเห็นอีก ส่วนส่วยสติกเกอร์แรงงานต่างด้าว เป็นเรื่องเก่า วอน ปชช.ตรวจสอบข้อมูลก่อนแชร์ เพราะอาจเป็นการปรักปรำ จนท.ได้
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เปิดโปงข้อมูลเกี่ยวกับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวโดยเร็วแล้ว ขณะเดียวกัน ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ก็ได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบร่วมด้วย พร้อมแต่งตั้ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ที่เป็นนายตำรวจที่มีผลงานเรื่องการปราบปรามการทุจริต มารักษาราชการแทนในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจทางหลวง เพื่อให้ตรวจสอบในประเด็นส่วยสติกเกอร์แล้ว และจะมีการตั้งชุดเฉพาะกิจของตำรวจสอบสวนกลางเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
“ยอมรับเรื่องส่วยมีจริงและเป็นเรื่องที่ได้ยินมานานแล้ว อาจหายไปเป็นบางช่วงเวลา แต่เมื่อช่วงนี้กลับมาเป็นข่าวอีก จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบโดยเร็ว ซึ่งเรื่องส่วยนั้นมีทั้งผู้รับและผู้ให้ โดยผู้ให้คือระบบขนส่ง ส่วนผู้รับเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องให้ผู้บังคับการ ปปป. เข้ามาตรวจสอบเรื่องดังกล่าวในทุกมิติ ส่วนการสั่งย้ายผู้บังคับการตำรวจทางหลวงเข้ามาปฏิบัติราชการที่บช.ก.นั้น เพื่อเปิดทางให้จเรตำรวจแห่งชาติ สามารถการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้โดยอิสระ และส่งข้อมูลให้กับคณะกรรมการเนื่องจากจะมีคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตำรวจ หรือ ก.ร.ตร. ร่วมพิจารณาข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมยังได้สั่งให้มีการขยายผลไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด หากพบว่ามีความผิดจริงก็จะดำเนินการโดยไม่ละเว้น” ผบ.ตร.ระบุ
ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์อื่นๆ เช่น ส่วยสติกเกอร์ลูกเต๋าของแรงงานต่างด้าวที่มีการเผยแพร่ลงในโซเชียลมีเดียนั้น ก็ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ซึ่งบางส่วนเป็นข้อมูลเก่า ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย วอนประชาชนที่จะโพสต์แชร์ข้อมูลให้ตรวจสอบให้รอบคอบก่อน มิฉะนั้นอาจเป็นการปรักปรำเจ้าหน้าที่ได้
“หลังจากนี้ จะมีคำสั่งให้ บช.ก.ตรวจซ้อนดูว่าใครปล่อยปละละเลย ก็ขอให้มีการจับกุม เมื่อตอนเห็นข่าวต่อไปก็ไม่อยากเห็นส่วยสติกเกอร์อีกแล้ว อยากจะทำให้หมดไปให้ได้ เท่าที่จะทำได้ ในยุคนี้ จะทำเต็มที่ สั่งการทุกหน่วยว่า ถ้าหน่วยไหนยังปล่อยให้มีขอให้รีบแจ้งเบาะแสมาจะรีบไปดำเนินการ ทั้งส่วยสติกเกอร์ต่างๆ จะไม่ให้มีแล้ว ที่ผ่านมา อาจจะมีการลักลอบเราไม่สามารถไปรู้ได้ทุกจุด เมื่อจุดไหนยังมีปัญหาอยู่ขอให้รีบแจ้งมาก็จะรีบดำเนินการ แต่ชุดเฉพาะกิจชุดนี้จะไปหาข่าวเองในการทำงาน เช่น อาจไปสังเกตดูว่าตรงไหนมีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน หรือ ฝ่าฝืนเวลา ก็จับกุม ถ้าจับกุมแล้ว พื้นที่ปล่อยปละละเลยก็ต้องถูกลงโทษ ผบ.ตร.กล่าวและว่า เรื่องนี้ไม่ใช่การประกาศสงครามกับส่วยสติกเกอร์ แต่เป็นการปฏิบัติงานตามปกติของเจ้าหน้าที่ที่จะต้องกวาดล้างส่วยสติกเกอร์ให้หมดไป โดยขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่ามีตำรวจเรียกรับส่วย โดยยังต้องรอผลการตรวจสอบก่อน