MGR Online - ผบ.ตร.มอบรางวัลตำรวจสายตรวจ สภ.สาขลา เข้าระงับเหตุปล้นชิงทอง ตามโครงการทำดีมีรางวัล ชี้ทำตามยุทธวิธีตำรวจสมควรยกย่องสรรเสริญ
วันนี้ (25 พ.ค.) เวลา 16.00 น. ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ตำรวจสายตรวจ สภ.สาขลา เข้าระงับเหตุปล้นชิงทองได้อย่างทันท่วงที
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับโครงการ “ทำดี มีรางวัล” นั้น เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับข้าราชการตำรวจและประชาชนที่ประกอบคุณงามความดีมีจิตสาธารณะ จนเป็นที่ยอมรับของสังคม ตลอดจนข้าราชการตำรวจที่มุ่งมั่นทุ่มเททำงานจนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ สร้างชื่อเสียงให้แก่หน่วยงาน และกรณีนี้จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 หรือเมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 14.00 น.มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อขับขี่รถจักรยานยนต์และใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ห้างทองเยาวราชบางกอก จังหวัดสมุทรปราการ โดยได้ทรัพย์สินเป็นแหวนทอง จำนวนกว่า 600 วง มูลค่าประมาณ 5,600,000 บาท หลังก่อเหตุคนร้ายได้ยิงปืนเพื่อเปิดทางหนีออกจากร้านเนื่องจากประตูนิรภัยล็อคอยู่ และขณะกำลังขึ้นรถจักรยานยนต์เพื่อทำการหลบหนี ส.ต.ท.ตฤณ ทรงการุณย์ และ ส.ต.ต.พิพัฒน์ ธรรมไข ผู้บังคับหมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.สาขลา หลังได้รับแจ้งเหตุ เมื่อมาถึงจึงได้ตัดสินใจทำการสกัดการหลบหนี และระงับเหตุตามหลักยุทธวิธีสากล จนสามารถระงับเหตุได้ในที่สุด ก่อนประสานมูลนิธิกู้ชีพเพื่อมารักษาผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ (ซึ่งก็คือคนร้าย) และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาแล้วเห็นว่า ตำรวจทั้ง 2 นายเป็นผู้ที่มีความสามารถสูง ปฏิบัติงานตามหลักยุทธวิธีตำรวจสมควรแก่การยกย่องสรรเสริญ ตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ข้าราชการตำรวจและสังคมสืบไป
ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า “ขอชื่นชมในความกล้าหาญ ที่ให้การช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว และทันท่วงทีตนจึงได้มอบใบประกาศเกียรติคุณและรางวัลตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” และเงินรางวัล 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม ซึ่งโครงการนี้เป็นโครงการที่จะมอบรางวัลให้กับข้าราชการตำรวจหรือประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุก เพื่อความสงบสุขของประชาชน ประกอบคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน หรือทางราชการ ประพฤติตนดี คิดถึงประโยชน์ส่วนรวมและช่วยเหลือประชาชนจนเป็นที่ยอมรับต่อสังคม”