xs
xsm
sm
md
lg

ปส.กวาดล้างจับบิ๊กลอต ไอซ์ 1.3 ตัน ยาบ้า 17 ล้านเม็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงผลงานตำรวจ ปส.กวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดช่วงก่อนเลือกตั้ง 66 จับกุม 8 คดี ผู้ต้องหา 24 คน ยึดไอซ์ 1,300 กก. ยาบ้า 17 ล้านเม็ด

วันนี้ (12 พ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.สกส. พล.ต.ต.สมกิต พุ่มวารี ผบก.ขส. พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และ กอ.รมน. ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่าย ยาเสพติดตามนโยบาย ตร. ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมก่อนการเลือกตั้งปี 2566 ประกอบกับการเดินหน้าทำลายเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยตามนโยบายเร่งด่วนของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สามารถจับกุม 8 เครือข่าย ผู้ต้องหา 24 คน พร้อมของกลางไอซ์ 1,300 กก. ยาบ้า 17 ล้านเม็ด และคีตามีน 2 กก.

โดยคดีที่แรกเมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.30 น. ตำรวจ บก.ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายเกรียงไกร และนายอะสะพะ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าประมาณ 8.7 ล้านเม็ด ได้ที่บริเวณหน้ารีสอร์ตในพื้นที่ ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดย ตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายยาเสพติด นายเกรียงไกร และนายอะสะพะ ซึ่งลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนติดทางด้าน อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้ผู้ลำเลียงใน จ.เชียงใหม่ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ ปส.3 กำลังเฝ้าติดตามเครือข่าย ยาเสพติดดังกล่าว พบรถกระบะเป้าหมายวิ่งไปถึง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ จึงได้สกัดรถไว้ได้ที่บริเวณถนนหน้ารีสอร์ต แห่งหนึ่ง ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีนายเกรียงไกร เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอะสะพะ นั่งข้างคนขับ จากการตรวจค้นรถ พบยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ จำนวน 1.5 ล้านเม็ด อยู่ภายในห้องโดยสารของรถยนต์ และพบยาบ้า จำนวน 26 กระสอบ หรือ 7.2 ล้านเม็ด อยู่ภายในกระบะท้าย รวมยาบ้า 8.7 ล้านเม็ด จึงยึดเป็นของกลางและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ดำเนินคดี และสืบสวนขยายผลถึงผู้สั่งการ

คดีที่ 2 เมื่อ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส. ขส. และ ปส.3 ได้ร่วมทำการจับกุม ผู้ต้องหา 4 คน ได้แก่ นายชรินทร์ น.ส.เกตพิกุล นายซามูดิน และนายอับดุลเล๊าะ พร้อมด้วยของกลางไอซ์ประมาณ 251 กก. ได้ที่ด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ต่อเนื่อง บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส สาขาบางปะอิน ก่อนการจับกุมสืบทราบว่าเครือข่ายนี้จะลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้าใน จ.ปทุมธานี โดยจะใช้รถยนต์แบบตู้ทึบ ลักษณะขนส่งสินค้าเอกชนซุกซ่อนและลำเลียงยาเสพติด ตำรวจ ปส. จึงเฝ้าติดตามตลอดเส้นทางจากบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย จนถึง จ.นครสวรรค์ และสามารถจับกุม 2 ผู้ต้องหาคือ นายชรินทร์ และ น.ส.เกตพิกุล ได้ที่บริเวณด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี พบไอซ์ถูกซุกซ่อนในรถยนต์ 234 กก. สอบสวนนายชรินทร์ ระบุมีไอซ์ อีก 17 กก. ซุกซ่อนในห้องเช่าใน ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย หลังเช่าไว้สำหรับพักยาเสพติดเพื่อรอส่งมอบให้กับลูกค้า จึงตรวจยึดและจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 คน คือ นายซามูดิน และ นายอับดุลเล๊าะ ดำเนินคดี

คดีที่ 3 เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายกิตติ มิ่งลดาพร และ นายเสกสรร อ่ำส้ม พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 2 ล้านเม็ด ได้ที่ บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.แม่อาย จ.เชียงใหม่ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่า นายกิตติ และ นายเสกสรร มีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนด้าน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศอย่างต่อเนื่อง กระทั่ง 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดอีกครั้ง กระทั่งกลางดึกวันเดียวกัน ผู้ต้องหาได้ขับรถออกมาจากบ้านห้วยปู โดยรถมีการบรรทุกสิ่งของในลักษณะที่มีน้ำหนักมากและขับรถจอดเป็นระยะๆ และเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมัน ปตท.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ตำรวจ ปส.3 จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้าอยู่ภายในห้องโดยสารและท้ายรถ รวม 2 ล้านเม็ด จึงยึดเป็น ของกลางและจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ดำเนินคดี

คดีที่ 4 เมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.2 ได้ทำการจับกุมนายสหรัถ พร้อมของกลางไอซ์ประมาณ 450 กก. ได้ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ ต.ธาตุนาเวง อ.เมือง จ.สกลนคร โดยตำรวจ ปส.2 สืบสวนทราบว่า นายสหรัถ จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจาก จ.บึงกาฬ ไปส่งให้กับลูกค้าใน กทม. จึงวางกำลังตามเส้นทางเพื่อจับกุม กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.2 พบรถเป้าหมายขับมาในเส้นทาง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร โดยมีรถนำสำรวจเส้นทาง ชุดจับกุมจึงนำกำลังสกัดกั้นได้บริเวณสี่แยกไฟแดงบ้านธาตุ อ.เมือง จ.สกลนคร พบนายสหรัถ เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ จากการตรวจสอบภายในห้องโดยสาร พบไอซ์ 450 กก. บรรจุในกระสอบ 9 กระสอบ สอบถามผู้ต้องหา รับสารภาพว่า รับยาเสพติดจากชายแดนแม่น้ำโขง จ.บึงกาฬ โดยจะมีกลุ่มนักบินภาคใต้มารอรับอีกทอดหนึ่ง

คดีที่ 5 เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.1 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่นายอดุลย์หรือบังเลาะห์ และ นายธนกฤติ ได้ที่บ้านพักย่านลำลูกกา บ้านพักย่านสรงประภา และตรวจยึดยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด, คีตามีน 2 กก. ได้ที่ศูนย์กระจายสินค้าเอกชน ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดย ตำรวจ ปส.1 ได้สืบสวนและเฝ้าติดตามพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งลักลอบส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ และได้ประสานความร่วมมือกับบริษัทขนส่งพัสดุภัณฑ์ เพื่อติดตามพัสดุที่ผู้ต้องหาส่ง จนกระทั่งทราบว่าพัสดุดังกล่าว กำลังขนส่งไปถึง จ.สมุทรสาคร จึงทำการตรวจสอบพัสดุดังกล่าวร่วมกับบริษัทขนส่งพัสดุ พบยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด และ คีตามีน 2 กิโลกรัม บรรจุในกล่องพัสดุ 16 กล่อง จึงได้ยึดเป็นของกลางและติดตามไปจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาดำเนินคดี และตรวจยึดรถยนต์ 3 คัน สร้อยคอทองคำ 8 บาท และแหวนเพชร 1 วง รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 3 ล้านบาท

คดีที่ 6 เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ขส. ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 7 คน ได้แก่ นายธงไชย นายวิทยา นายสมชาย นายธรรมนูญ นายภาคภูมิ น.ส.สุธาดา และนายบัญฑิตย์ พร้อมของกลางยาบ้า 4.4 ล้านเม็ด ได้ที่บริเวณริมถนนตาก-พิษณุโลก(หมายเลข 12) ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาส จ.สุโขทัย โดยชุดจับกุมสืบสวนทราบว่าในห้วงวันที่ 6-8 พ.ค.ที่ผ่านมา จะมีเครือข่ายค้ายาเสพติดจากภาคเหนือนำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้รถยนต์ 3 คัน ในการลำเลียงยาเสพติดและนำทาง ตำรวจ ปส.ชุดจับกุม จึงวางกำลังตามเส้นทางบ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ.เชียงราย จนถึง จ.สุโขทัย กระทั่งจับกุม 7 ผู้ต้องหา ได้บริเวณริมถนนตาก-พิษณุโลก จ.สุโขทัย ตรวจสอบรถที่ใช้ก่อเหตุพบยาบ้าประมาณ 4.4 ล้านเม็ด และตรวจยึดรถยนต์ที่ใช้ขนยาเสพติด 3 คันดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 7 เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.4 ร่วมกับ บก.ขส. ได้ร่วมทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 4 คน ได้แก่ นายกฤษณ์ น.ส.สิรารมย์ นายธนิสร และ น.ส.วรัญธิญา ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติด (บ้านควนมีด) อ.จะนะ จ.สงขลา ต่อเนื่องบริเวณจุดสกัดป้อมตำรวจโคกกอก ต.ท่ามิหรำ อ.เมือง จว.พัทลุง พร้อมของกลางไอซ์ประมาณ 300 กก. จากการสืบสวนขยายผลการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ไอซ์ 688 กก. เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พบว่าเครือข่ายดังกล่าวจะลักลอบขนยาเสพติดจากภาคกลางซุกซ่อนมากับรถ 2 คัน เพื่อส่งให้ลูกค้าในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ ต่อมาวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา พบรถ 2 คัน มุ่งหน้าลงใต้ในลักษณะเป็นรถนำ-รถตาม ตำรวจ ปส.4 จึงประสานด่านตรวจยาเสพติดบ้านควนมีด จ.สงขลา ให้เตรียมเรียกตรวจรถ แต่รถดังกล่าวได้จอดหลบข้างทางก่อนถึงด่านตรวจ 3 กม. ตำรวจ ปส.4 จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นรถ พบนายกฤษณ์ และ น.ส.สิรารมย์ให้การมีพิรุธ จึงเชิญทั้ง 2 คน เข้าด่านตรวจยาเสพติด พร้อมนำรถยนต์เข้าตรวจเอกซเรย์ พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายยาเสพติด จึงทำการตรวจค้น พบไอซ์ 300 กก. ถูกซุกซ่อนมากับพืชผลทางการเกษตร จากนั้นได้ติดตามจับกุมรถสำรวจเส้นทาง มีนายธนิสร เป็นผู้ขับขี่ และน.ส.วรัญธิญา นั่งไปด้วย ขณะนี้ ตำรวจ ปส.4 อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้ร่วมขบวนการ

คดีสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ ปส.3 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้แก่ นายบรรยงค์ และนายยิ่งคุณ พร้อมด้วยของกลางไอซ์ประมาณ 300 กก. ได้ที่ บริเวณถนนหมายเลข 1063 ต่อเนื่องบริเวณถนนหมายเลข 1209 หน้าบ้านเลขที่ 205 หมู่ 15 ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย โดยตำรวจ ปส.3 ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดตามแนวชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทราบว่าจะมีการขนยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ตอนในด้วยรถกระบะ จึงเฝ้าสืบสวนติดตาม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา พบรถยนต์ต้องสงสัยขับตามกันมาจึงเข้าตรวจสอบรถทั้ง 2 คัน ได้ขับขี่หลบหนี แต่ตำรวจ ปส.3 สามารถสกัดจับกุมได้ ตรวจสอบรถคันที่นายบรรยงค์เป็นผู้ขับขี่พบไอซ์ 300 กก. อยู่ภายในรถ โดยมีนายยิ่งคุณ ขับขี่รถนำทางอีกคัน ซึ่งตำรวจ ปส.อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลถึงผู้สั่งการต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 8 คดี ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป

ทั้งนี้ ตำรวจ ปส.จะสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้สั่งการขบวนการค้ายาเสพติดต่อไป ขณะที่ยาเสพติดของกลาง ที่ตรวจยึดมาได้นั้นพนักงานสอบสวนจะส่งไปตรวจพิสูจน์ยังหน่วยที่กำหนดไว้ อาทิ สำนักงาน ป.ป.ส. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากนั้นยาเสพติด ของกลางจะถูกเก็บรักษาไว้ที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อการทำลายต่อไป










กำลังโหลดความคิดเห็น