แม่บ้านวัย 67 สุดช้ำ! แจ้งจับเทรดเดอร์ชื่อดัง หลอกลงทุน "COPPY TRADE" โอดเงินประกันผัวทิ้งไว้ให้ก้อนสุดท้ายกว่า 14 ล้าน มลายหายไปกับสายลม
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.สุ (นามสมมติ) อายุ 67 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศธร แจ่มพุฒิ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเทรดเดอร์ชื่อดังกับพวกหลอกให้ลงทุนให้ธุรกิจ "COPPY TRADE" จนสูญเงินรวมกว่า 14,200,000 บาท โดยนำเอกสารหลักฐานการลงทุนมามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.สุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากเทรดเดอร์คนดังกล่าวให้นำเงินมาร่วมลงทุนเทรดแลกเปลี่ยนเงินตราในลักษณะ COPPY TRADE หรือ "การคัดลอกเทรด" คือ ระบบที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถเชื่อมโปรไฟล์หรือพอร์ตเทรดของตนเองกับนักเทรดมืออาชีพรายอื่นๆ เพื่อใช้เป็นโอกาสในการคัดลอกการเทรดตาม ประกอบกับเห็นว่าเทรดเดอร์คนดังกล่าวค่อนข้างชื่อเสียงในวงการ จึงหลงเชื่อนำเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่สามีทำประกันชีวิตทิ้งไว้ให้มาลงทุน รวมเป็นเงินกว่า 14,200,000 บาท ต่อมาตนต้องการหยุดการลงทุนจึงขอยุติการเทรด และขอถอนเงินคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาต่างๆ ก่อนจะตัดขาดการติดต่อและหนีหายไป ทำให้เชื่อว่าถูกหลอกจึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าแจ้งความในวันนี้
"ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วประมาณ 8 ราย นอกจากนี้ยังเชื่อว่า น่าจะทำกันเป็นขบวนการ ในรูปแบบของบริษัท มีการจัดฉากเปิดคอร์สสอนเทรด มีคนทำหน้าที่คอยหาลูกค้าหรือเหยื่อมาร่วมลงทุน การสร้างโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ให้ดูน่าเชื่อถือ" น.ส.สุ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.สุ (นามสมมติ) อายุ 67 ปี อาชีพแม่บ้าน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.พงศธร แจ่มพุฒิ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอศ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเทรดเดอร์ชื่อดังกับพวกหลอกให้ลงทุนให้ธุรกิจ "COPPY TRADE" จนสูญเงินรวมกว่า 14,200,000 บาท โดยนำเอกสารหลักฐานการลงทุนมามอบไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.สุ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการชักชวนจากเทรดเดอร์คนดังกล่าวให้นำเงินมาร่วมลงทุนเทรดแลกเปลี่ยนเงินตราในลักษณะ COPPY TRADE หรือ "การคัดลอกเทรด" คือ ระบบที่ทำให้เทรดเดอร์สามารถเชื่อมโปรไฟล์หรือพอร์ตเทรดของตนเองกับนักเทรดมืออาชีพรายอื่นๆ เพื่อใช้เป็นโอกาสในการคัดลอกการเทรดตาม ประกอบกับเห็นว่าเทรดเดอร์คนดังกล่าวค่อนข้างชื่อเสียงในวงการ จึงหลงเชื่อนำเงินเก็บก้อนสุดท้ายที่สามีทำประกันชีวิตทิ้งไว้ให้มาลงทุน รวมเป็นเงินกว่า 14,200,000 บาท ต่อมาตนต้องการหยุดการลงทุนจึงขอยุติการเทรด และขอถอนเงินคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยงอ้างติดปัญหาต่างๆ ก่อนจะตัดขาดการติดต่อและหนีหายไป ทำให้เชื่อว่าถูกหลอกจึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าแจ้งความในวันนี้
"ที่ผ่านมามีผู้หลงเชื่อเป็นจำนวนมาก มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้วประมาณ 8 ราย นอกจากนี้ยังเชื่อว่า น่าจะทำกันเป็นขบวนการ ในรูปแบบของบริษัท มีการจัดฉากเปิดคอร์สสอนเทรด มีคนทำหน้าที่คอยหาลูกค้าหรือเหยื่อมาร่วมลงทุน การสร้างโปรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์ให้ดูน่าเชื่อถือ" น.ส.สุ กล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำเพื่อนำไปประกอบการพิจารณาควบคู่พยานหลักฐาน ก่อนส่งต่อผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป