ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม "ป๋าโส" อ้างรู้จักคนในคณะรัฐบาลปี 57 หลอกผู้รับเหมาเรียกเงินวิ่งเต้นกว่า 5 แสนบาท หางานสร้างถนน พบหมายจับผู้ต้องหาเหลือแค่ 3 เดือน จะหมดอายุความ
วันนี้ (6 พ.ค.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายโสภณ โกสุมา หรือป๋าโส อายุ 71 ปี อยู่ที่ บ้านเลขที่ 55 หมู่ 9 ตำบลวังศาล อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ที่ 30/2557 ลงวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานฉ้อโกง โดยสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บริเวณลานจอดรถ สวนนกรีสอร์ท ตำบลสากเหล็ก อำเภอสาก เหล็ก จังหวัดพิจิตร
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้เสียหายที่เคยถูกนายโสภณ อ้างตัวว่า ตนรู้จักกับผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาล ปี 2557 สามารถที่จะหางานทำถนนด้วยวิธีการถูกต้องมาให้ผู้เสียหายซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรับทำได้ แต่ได้มีการขอเบิกเงินค่าใช้จ่ายในการวิ่งเต้นไปก่อนรวมกว่า 500,000 บาท โดยในแต่ละครั้งที่ขอเบิกเงินจะอ้างว่าอยู่กับนายใหญ่ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จากนั้นก็ไม่ได้งานตามที่ตกลงกัน ก่อนที่นายโสภณจะหลบหนีหายไป ผู้เสียหายจึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี แต่นายโสภณได้หลบหนีเรื่อยมา จนกระทั่งหมายจับเหลืออายุความอีก 3 เดือน จึงร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. ให้ช่วยสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุก่อนที่หมายจับผู้ก่อเหตุดังกล่าวจะหมดอายุความ
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าตามข้อกล่าวหาตามหมายจับนั้น นายโสภณได้เคยร่วมกันนายเปี๊ยก (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2–3 ปี อ้างตัวกับผู้เสียหายซึ่งทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า รู้จักกับผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาลในขณะนั้นเมื่อปี 2557 ว่า สามารถที่จะหางานทำถนนด้วยวิธีการถูกต้องมาให้ผู้เสียหายทำได้ เนื่องจากตนเคยอยู่บริษัทรับเหมาก่อสร้ายรายใหญ่ระดับประเทศมาก่อน จึงมีเส้นสายที่เชื่อว่าสามารถวิ่งเต้นให้ผู้เสียหายได้งานได้ แต่เนื่องจากเมื่อรับเงินผู้เสียหายมาแล้ว ไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากเส้นสายที่ตนรู้จักไม่ให้ความร่วมมือ จึงไม่สามารถดำเนินการให้ผู้เสียหายได้ตามที่รับปากไว้ ประกอบกับตนเดินทางบ่อยทำให้ขาดการติดต่อกับผู้เสียหายจึงน่าจะทำให้ผู้เสียหายไม่พอใจ จึงได้ไปร้องทุกข์ดำเนินคดี ทั้งนี้ชั้นจับกุมผู้ต้องหายังอ้างชุดจับกุมว่า ตนเคยเป็นอนุกรรมาธิการตำรวจ และรู้จักตำรวจผู้ใหญ่หลายคน
โดยผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า เคยดำรงตำแหน่งอนุกรรมาธิการตำรวจ ตั้งแต่ปี 2545 -2549 ทำให้รู้จักผู้ใหญ่ในรัฐสภาพอสมควร ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับตัวผู้ต้องหายังพยายามอ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมว่า ตนรู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกง เนื่องจากมิจฉาชีพมักใช้ความโลภ เห็นแก่ผลกำไร มาเป็นจุดล่อใจให้ประชาชนหลงกล ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ ในด้านต่างๆ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ "สืบสวนนครบาล IDMB" ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.