ชาวบ้านสุดทนแจ้ง ตร.จับพระเมากร่างบริเวณป้ายรถประจำทางปากซอย แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 20 จับเป่าแอลกอฮอร์พุ่ง 233 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ พระวินยาธิการ แนะ ควรสลักหลังบัตร ปชช.-ใบสุทธิ ถูกจับสึกเพราะอะไร จะได้ไม่กลับมาบวชใหม่
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 2 พ.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์สวมแว่นตาใส่รองเท้าแตะในมือถือถุงพลาสติกยืนรอรถอยู่บริเวณป้ายรถประจำทางปากซอย แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 20 (ซอยต้นสน) ทราบชื่อคือ พระพรเทพ วิสารทานนท์ อายุ 63 ปี ที่อยู่ 254/2 หมู่ที่ 1 ต.สนามคลี อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ยืนพิงเสาอยู่ในสภาพมึนเมา ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจจึงได้เชิญตัวไปที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ ผลการตรวจพบว่า ค่าแอลกอฮอร์สูงถึง 233 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวพระพรเทพ ไปที่วัดบางพูดนอก พบพระใบฎีกา จันทร์ โกวิโท พระวินยาธิการประจำจังหวัดนนทบุรี เขตปกครองคณะสงฆ์ ตำบลบางพูด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อทำการลาสิกขา โดยขณะทำการลาสิขาทางด้านพระพรเทพ มีอาการฉุนเฉียว ไม่พอใจ โต้เถียงกับพระในวัด และไม่ยอมสึก ต้องใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่นาน จากการตรวจสอบพบบัตรประชาชนพระและใบสุทธิวัดแห่งหนึ่งย่านจังหวัดอ่างทอง ตรวจสอบภายในย่ามพบยารักษาโรค ลำโพงบลูทูธ ยี่ห้อมาแชล จำนวน 1 ตัว หนังสือสวดมนต์จำนวน 1 เล่ม และเอกสารต่างๆ
จากการสอบถาม พระพรเทพ กล่าวว่า ตนกำลังจะรอรถเพื่อกลับบ้านที่เมืองทองธานี จู่ๆ มาจับสึก ตนไม่ได้เมา ยอมรับว่า กินยาชูกำลัง ยี่ห้อพญานาค ที่มีอาการแบบนี้ เนื่องจากกินยารักษาโรคผิวหนัง เลยรู้สึกเบลอ ก่อนหน้านี้ ตนบวชอยู่ที่วัดแถวป่าโมก จังหวัดอ่างทอง มาจับตนสึกแบบนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้บวชใหม่ได้ ตังค์มี พ่อแม่มี โดนจับสึกแบบนี้โคตรเท่เลย กูไม่ยอมคน กูเด็กนนท์ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นมาใส่บาตรที่วัดแต่เช้าสาธุ
พระใบฎีกา จันทร์ โกวิโท (พระวินยาธิการประจำจังหวัดนนทบุรี) กล่าวว่า พระรูปนี้เป็นพระจริง บวชต้นสังกัดที่วัดอัมพวา ต.ป่าโมก จ.อ่างทอง ได้ทำใบสุทธิมาอย่างถูกต้อง และย้ายต้นสังกัดไปที่วัดเทวราชวราราม จ.สระบุรี ย้ายไปที่วัดจำปาเพื่อทำใบสมาร์ทการ์ด บัตรประชาชนพระ เขาเป็นพระจริง และมีความผิดฐานกินเหล้า เป็นความผิดดของพระ ซึ่งทางโลกอาจจะไม่ใช่คดีอะไร แต่ทางพระทำไม่ได้ไม่เหมาะสม ยิ่งชาวบ้านเป็นคนจับได้ยิ่งต้องจับสึก ทางต้นสังกัดเขาก็ไม่ยินยอม ต้องให้ลาสิกขา หากเขาสึกไปแล้วและต้องไปทำบัตรประชาชนของฆราวาสต้องทำเรื่องย้าย อาตมาเลยต้องยึดบัตรประชาชนพระและใบสุทธิไว้ เพราะมันสามารถไปห่มผ้าเหลืองเองและใช้ได้อีก อาตมาจึงจำเป็นต้องยึดไว้ไม่ให้ไป ให้เขาสร่างแล้วมาหาอาตมา ตอนนี้เขาอาจจะเมาคุยไม่รู้เรื่อง ยังไงก็ต้องสึก ถ้าตำรวจบอกเป่าได้ 233 มิลลิกรัม มันแรงมาก สึกอย่างเดียว ที่ไหนก็ไม่มีใครเอา วัดไหนก็ไม่เอา แบบนี้สามารถบวชใหม่ได้ แต่อาตมาจะสลักหลังใบสุทธิไว้ แต่ยังไงก็ผิดศีล ผิดทางพระ ถ้าเขาหนีไปบวชที่อื่นแล้วไม่ตรวจสอบก็ไม่มีใครรู้ ถ้าทางอำเภอสามารถสลักหลังในบัตรประชาชนได้ว่าเคยบวชและมีความผิดจนโดนจับสึกก็จะดี แต่อาตมาไม่รู้ว่าทำได้มั้ย
นายพลายงาม ปานหลิม อายุ 47 ปี อาชีพวิน จยย.รับจ้าง (ผู้เห็นเหตุการณ์) เล่าว่า ประมาณทุ่มกว่าๆตนเห็นพระรูปนี้ยืนอยู่ปากซอยยืนแล้วล้ม พนักงานศูนย์เบนซ์ใกล้เคียงได้เดินมาถามไถ่พระรูปนี้ว่าเป็นอะไรมาจากไหน แต่พระรูปนี้กลับโวยวาย และบอกต้องการแท็กซี่ไปเมืองทอง 1 และจะไปประชาชื่น ตนก็ไม่รู้จะไปที่ไหนกันแน่ พนักงานศูนย์เบนซ์เริ่มไม่พอใจ เพราะได้กลิ่นเหล้าจากพระ ตนเลยโทร.หาคนรู้จักในพื้นที่ให้มาตรวจสอบ ตนเห็นสภาพแล้วก็อดคิดมากไม่ได้ ตนใส่บาตรทุกวัน มาเจอพระแบบนี้ก็ไม่ไหว คนอื่นเห็นก็ไม่รู้จะรู้สึกยังไง ตนไม่ได้รู้สึกเสื่อมศรัทธาเพราะพระดีๆก็มี พระที่ไม่ดีก็มี ตนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ไม่เคยเจอกับตัว ตอนแรกตนเห็นมีคนงานพม่าเดินผ่านก็ไม่ได้สนใจพระรูปนี้ ตนก็แปลกใจเลยเดินเข้าไปดูถึงได้รู้ว่าพระรูปนี้เมา