ตำรวจเตรียมเชิญตัว“อดีตสามีแอม” เข้ามาให้ปากคำอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ผลตรวจยืนยันพบไซยาไนด์ในปริมาณที่ทำให้ “ก้อย-สารวัตรปู” ถึงขั้นเสียชีวิต
วันนี้ (28 เม.ย.) ที่ สโมสรตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดี นางสรารัตน์ หรือ แอม อายุ 36 ปี อดีตภรรยา นายตำรวจระดับ รอง ผกก. ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ผู้ต้องหาในคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาลักทรัพย์ ด้วยการวางยา “ไซยาไนด์” หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย โดยใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผบก.ศฝร.บช.น.ในฐานะหัวหน้า รวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ออกมาให้สัมภาษณ์คดีดังกล่าว
โดย พล.ต.ต. นำเกียรติ กล่าวว่า สำหรับการประชุมในวันนี้เป็นเรื่องของการนำข้อมูลในแต่ละท้องที่เกิดเหตุเข้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งล่าสุดเหยื่อในคดีตามข้อมูลในสำนวนตอนนี้ยังคงอยู่ที่ 13 ศพ และรอดชีวิต 1 ราย โดยกองปราบฯ ยังคงทำคดี “ก้อย” เพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละในพื้นที่ ซึ่งยังคงเน้นย้ำให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ตั้งศูนย์วอรูม เพื่อรับเรื่องราวของเหยื่อ และสามารถเข้ามาแจ้งเรื่องดังกล่าวได้ ส่วนกระแสข่าวเรื่องในการออกหมายจับเพิ่มในวันนี้ ยืนยัน ยังไม่มี เพราะล่าสุดคดีที่ออกหมายจับเพิ่มแอม คือ คดีของสารวัตรปู ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม เท่านั้น
ขณะที่ประเด็นการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีแอมเมื่อวานนี้ เป็นสิทธิที่เขา จะให้การอย่างไรก็ได้ และทางตำรวจมีสิทธิที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ เพราะจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการอยู่แล้ว รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางการเงิน โทรศัพท์ของทั้งสองคน ว่ามีความสัมพันธ์หรือมีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดบ้าง โดยหลังจากนี้จะต้องเชิญอดีตสามีแอมกลับมาให้ปากคำอีกครั้ง
ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ที่ได้เรียกครอบครัวของ น.ส.สาวิตรี บุตรศรีรักษ์ หรือ หนิม กรณีผู้เสียชีวิตรายล่าสุด มาสอบปากคำ เนื่องจากพบเส้นทางการเงินที่แอมโอนไปให้ 6 แสนบาท เบื้องต้นมีข้อมูลว่ามีการโอนเงินให้จำนวนหลักแสนบาท ในส่วนนี้จากการสืบสวนพบว่า แอมมีหลายบัญชีในเรื่องของการเบิกจ่ายเงิน จึงต้องไปตรวจสอบว่าเชื่อมโยงกับใครหรือไม่
โดยการตรวจสอบรถเก๋งสีดำของแอมแล้ว ปรากฏว่า ตรวจพบ “ไซยาไนด์” ประเด็นนี้ต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง ขณะเดียวกัน กระแสข่าวที่พบกล่องวัสดุที่มีการสั่งซื้อยามาจากต่างประเทศ และมีการระบุชื่อชัดเจนนั้น ยังไม่พบข้อมูลในส่วนนี้
นอกจากนี้ จากการสอบปากคำ นายกอล์ฟ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทที่ไปเก็บเงินกู้กับนายแด้ ผู้เสียชีวิต ที่จังหวัดอุดรธานี เบื้องต้นเมื่อวานนี้เรียกมาสอบในฐานะพยานพบว่า มีความสนิทสนมกับแอมและนายแด้ผู้เสียชีวิต โดยเจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์ และยังไม่ได้รับสารภาพตามกระแสข่าว
ด้าน พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า จากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฏชัดเจนว่า แอมวางไซยาไนด์ 2 ศพ ในพื้นที่อำเภอบ้านโป่งและเมืองนครปฐม (ก้อย และ พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ หรือ สารวัตรปู) โดยผลการตรวจพบไซยาไนด์ มีปริมาณเป็นเหตุทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในปริมาณเท่าไหร่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ทั้งหมดอยู่ในสำนวนแล้ว
ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตและมีการเผาศพไปแล้วนั้น ยืนยันว่า จะหาหลักฐานความอื่นๆ ที่จะเชื่อมโยงเอาผิดกับแอมได้ ซึ่งพยานหลักฐานไม่ได้มีเพียงเรื่องสารพิษในร่างกายศพเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้ศาลเห็นว่าผู้กระทำผิดกระทำผิดจริง ซึ่งในขณะนี้มีแนวทางการรวบรวมพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตจากสารพิษจริง แต่ไม่ขอระบุรายละเอียด
เมื่อสอบถามถึงปริมาณไซยาไนด์ว่าต้องมีการใช้เท่าไหร่ ถึงจะทำให้ผู้ที่กินเข้าไปแล้วเสียชีวิตได้นั้น เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เรื่องการกินเข้าไป ขณะท้องว่างหรือมีอาหารในกระเพาะ ซึ่งมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยา