ตำรวจสืบสวนนครบาล จับหนุ่มอ้างเป็นเซเลบ สร้างโปรไฟล์หล่อรวย หลอกสาวผ่านแอปหาคู่ นัดออกเดต-มีเพศสัมพันธ์ ก่อนขโมยรถยนต์เหยื่อไปขาย
วันนี้ (28 เม.ย.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หน.PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าว บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ณรงฤทธิ์ ทองแพ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น.นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายภีรพัฒน์ บุญมี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28/2 ม.3 ต.ธารเกษม อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี โดยกล่าวหาว่าลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
โดยพฤติการณ์กล่าวคือ หญิงสาวผู้เสียหายรายหนึ่ง ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB ว่า ได้ถูกคนร้ายอ้างเป็นเซเลบรายหนึ่ง ซึ่งพบเจอกันในแอปพลิเคชันหาคู่ จากนั้นได้มีการนัดเจอกันที่โรงแรม ซึ่งเมื่อพักค้างแรมแล้ว ตื่นขึ้นมาก็พบว่าคนร้ายได้หายตัวไป พร้อมกับกุญแจรถ และรถยนต์ของหญิงผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันคนร้ายรายนี้ถูกออกหมายจับแล้วกว่าหลายคดี หลังรับแจ้ง ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของสืบนครบาลได้ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ตรวจสอบลักษณะแผนประทุษกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว พบว่า คนร้ายรายนี้ก่อเหตุมาอย่างโชกโชน โดยมีแผนประทุษกรรม คือ คนร้ายจะแฝงตัวอยู่ในแอปพลิเคชันหาคู่ เช่น Tinder และ Omi เป็นต้น โดยสร้างโปรไฟล์เป็นเซเลบ หนุ่มหล่อ รวย ถ่ายภาพคู่รถหรู ซึ่งแท้จริงเป็นรถคนอื่น ดึงดูดเหล่าหญิงสาวให้เกิดความสนใจ ซึ่งเมื่อมีผู้สนใจในตัวโปรไฟล์ของคนร้ายแล้วจะมีการคัดเหยื่อโดยการเลือกหญิงสาวที่มีรถยนต์ โดยไม่สนใจ หน้าตา อายุ ก่อนเริ่มด้วยบทสนทนาเกี้ยวสาวสุดเร่าร้อน ด้วยโปรไฟล์หนุ่มเซเลบทำให้เหล่าเหยื่อหญิงสาว ไม่สามารถทานความรู้สึก ต่างเผลอใจเคลิบเคลิ้มไปกับการเกี้ยวพาราสีของคนร้าย ไปจนถึงขั้นบางรายมีการนัดพบ หรือเป็นที่รู้กันในหมู่วัยรุ่นว่าการนัดยิ้ม
โดยคนร้ายจะแสร้งทำทีนัดหมายให้เหยื่อขับรถยนต์มารับที่สนามบิน โดยอ้างว่า เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่ ซึ่งไม่ได้บินมาจริง แสร้งเตร็ดเตร่ลากกระเป๋าเดินทางอยู่ในสนามบิน สวมเสื้อผ้าแบรนด์เนมสร้างภาพลักษณ์แรกพบเสมือนเป็นหนุ่มเซเลบนักเดินทาง หลังได้พบเจอกับเหยื่อหญิงสาวก็จะมักนำพาไปที่โรงแรมละแวกถนนเรียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งคนร้ายเข้าใจถึงหลักการฮอร์โมนของเพศหญิงที่จะหลั่งสาร ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ กับฝ่ายชายหลังมีเพศสัมพันธ์ จึงเลือกที่มีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งหลังเสร็จกิจ ก็จะออกอุบายต่างๆ นานา เพื่อขอยืมรถยนต์ของเหยื่อ ซึ่งเหล่าเหยื่อหญิงสาวต่างยินยอมให้โดยง่าย ซึ่งเมื่อกุญแจและรถยนต์ของเหยื่อตกไปอยู่ในมือคนร้ายรายนี้แล้ว ก็จะเริ่มตระเวนขับรถเพื่อไปให้เหล่าพ่อค้ารถเถื่อนดูสภาพรถ และจากนั้นก็จะกลับไปอยู่กับเหยื่อที่โรงแรม จนกระทั่งเหยื่อหญิงสาวหลับสนิท คนร้ายก็จะใช้โอกาสดังกล่าวขโมยรถของเหยื่อไปจากโรงแรมและตัดขาดการติดต่อกับเหยื่อไปเลย
ซึ่งต่อมาได้มีการสืบสวนจนกระทั่งสามารถยืนยันตัวบุคคลคนร้ายรายนี้ได้ คือ นายภีรพัฒน์ ซึ่งมีตัวตนหรือชื่อเล่นปลอมหลายชื่อ เช่น อุ้ม อั้ม พอช พัด แซ็ค และ แร็ค ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับกว่า 7 หมายจับ ดังนี้
1. หมายจับศาลแขวงนครราชสีมาที่ จ.190/2563 ลงวันที่ 17 ส.ค. 64 (สภ.มะเริง) ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
2. หมายจับศาลแขวงเชียงใหม่ที่ จ.352/2564 ลงวันที่ 5 ส.ค. 64 (สภ.ช้างเผือก) ข้อหาฉ้อโกงทรัพย์
3. หมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราชที่ จ.65/2564 ลงวันที่ 2 มิ.ย. 64 (สภ.เมืองนครศรีธรรมราช) ข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น
4. หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.316/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 (สน.โคกคราม) ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์
5. หมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ จ.131/2565 ลงวันที่ 6 ก.ค. 65 (สภ.ปากคลองรังสิต) ข้อหาฉ้อโกง
6. หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.439/2565 ลงวันที่ 6 พ.ค. 65 (สน.โคกคราม) ข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน
7. หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.316/2566 ลงวันที่ 24 มี.ค. 66 (สน.โคกคราม) ข้อหายักยอก
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ลงพื้นที่สืบสวนติดตามโดยสืบทราบว่าปัจจุบัน นายภีรพัฒน์ ได้ไปกบดานอยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี โดยคนร้ายหลบซ่อนไม่กลับบ้านตามภูมิลำเนาและยังอำพลางตัวใช้บัตรประชาชนผู้อื่นในการทำธุรกรรมต่างๆ กระทั่งได้ใช้เจ้าหน้าที่อำพลาง แปลงกายเป็นสาวสวยและรวยมาก เข้าไปท่องในโลก Tinder และ Omi กระทั่งได้พบเบาะแสของ นายภีรพัฒน์ จนนำมาสู่การจับกุมตัวตามหมายจับ โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าร้าน Mr.DIY ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.บช.น. เข้าไปจับกุมตัว นายภีรพัฒน์มีการออกอุบายทำทีว่าตนเองนั้นชื่ออนุรักษ์ มิใช่ ภีรพัฒน์ เพื่อหวังจะตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากเจ้าหน้าที่สามารถจำเอกลักษณ์พิเศษของ นายภีรพัฒน์ได้ ซึ่งท้ายสุดก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ
ในชั้นจับกุมนายภีรพัฒน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่าที่ตนเองมีหลายชื่อนั้นเพราะชอบแสวงหาความสุขจากการมีความสัมพันธ์กับผู้หญิง ไม่อยากให้มีใครจำตัวตนของตัวเองได้ และตนเองเริ่มก่อเหตุลักษณะนี้มาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ. 2561 โดยตอนนั้นได้มีลูกพี่ซึ่งเป็นเครือข่ายส่งรถยนต์ข้ามประเทศ มาสอนตนเองว่าให้นัดมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อและขโมยรถมา ซึ่งการทำเช่นนี้จะหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนข้อหาหนัก เพราะจะโดนแค่ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ซึ่งโทษเบา และยังสอนว่าไม่ต้องสนใจ รูปร่างหน้าตาอายุ ให้ดูเพียงแต่รุ่นรถของเหล่าหญิงสาวที่จะไปนัดมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น ให้ถือว่าเป็นการทำงานไม่ใช่การหาความสุขสำราญ โดยยอมรับว่าก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง และคนร้ายที่ก่อเหตุลักษณะนี้มีอีกจำนวนหลายรายเรียกได้ว่าเป็นเครือข่ายไม่ได้มีตนเพียงคนเดียว โดยยอมรับว่า ถ้าเป็นรถใหญ่เมื่อตนขโมยมาได้แล้วขายต่อนั้นก็จะถูกส่งไปยังประเทศกัมพูชา ส่วนรถเล็กนั้นส่วนใหญ่ผู้รับซื้อไปจะเอาไปเก็บในโกดังเพื่อรอนำไปสวมซากรถที่เป็นรุ่นเดียวกัน โดยสุดท้ายยอมรับว่าที่เคยนัดมีเพศสัมพันธ์กับเหล่าผู้เสียหายที่ผ่านมานั้นตนเองมิเคยมีการสวมถุงยางป้องกันแต่อย่างใด ปัจจุบันอ้างว่ามีอาการป่วย ซึ่งอยู่ระหว่างรอการตรวจโรคร้ายกับทางโรงพยาบาล หลังเสร็จสิ้นการจับกุมได้นำตัว นายภีรพัฒน์นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป