xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว หนุ่มอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กโจ๊ก" ใช้ปืนบังคับขืนใจสาวเอ็น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบ.ตร. เผยตำรวจจับกุมหนุ่มอ้างเป็นทีมงาน "บิ๊กโจ๊ก" ใช้ปืนขู่บังคับขืนใจสาวเอ็นเตอร์เทน สั่งดำเนินคดีถึงที่สุด

วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เปิดเผยถึงกรณีเมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ออม (นามสมมติ) ทำงานเป็นเด็กเอนเตอร์เทน เข้าร้องเรียนว่า เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกว่าจ้างให้ไปให้บริการชงเหล้าและเอ็นเตอร์เทนให้กับกลุ่มลูกค้าในช่วงเวลาระหว่าง22.00 – 04.00 น. ของอีกวันที่ห้อง VIP ของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอ้างว่าเป็นทีมงานของบิ๊กโจ๊ก โดยมีการแสดงภาพถ่าย ซึ่งปรากฏภาพผู้ต้องหานั่งร่วมโต๊ะกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

เมื่อผู้เสียหายไปถึงมีบุคคลชื่อ นายเจต เป็นบุคคลในภาพซึ่งอ้างว่าเป็นทีมงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระหว่างการนั่งดื่มอยู่นั้น นายเจต มีการกล่าวอ้างถึงความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ฯ พร้อมทั้งมีการแสดงอาวุธปืนให้ผู้เสียหายดู อีกทั้งยึดโทรศัพท์ของเด็กเอ็นเตอร์เทนทุกคนไว้ จากนั้นได้พาผู้เสียหายขึ้นไปบนห้องของโรงแรมพร้อมทั้งใช้อาวุธปืนข่มขู่ผู้เสียหายให้ถอดเสื้อผ้าและมีเพศสัมพันธ์ด้วย โดยมีการถ่ายคลิปวีดีโอไว้เพื่อแบล็คเมล์ผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว นายเจต มีการสั่งให้ผู้เสียหายและกลุ่มเด็กเอนเตอร์กลุ่มเดิม เข้ามาให้บริการอีก ซึ่งผู้เสียหายและกลุ่มเด็กเอนเตอร์ต้องจำใจไปตามที่นายเจตสั่ง เนื่องจากเกรงกลัวนายเจตที่กล่าวอ้างนายตำรวจระดับสูงและมีการพกพาอาวุธปืนตลอดเวลา

อีกทั้งเมื่อเสร็จงานแล้ว นายเจตกลับจ่ายเงินค่าให้บริการแก่ผู้เสียหายเพียงบางส่วนและมีการส่งข้อความและภาพการทำร้ายร่างกายบุคคลอื่นมาข่มขู่ผู้เสียหายอีกทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวว่าจะมีอันตรายต่อตนเองและบุคคลใกล้ชิด จึงได้เข้ามาพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลดังกล่าว

โดยกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สั่งการให้ สน.บวรมงคล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุ ดำเนินการสืบสวนนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกล่าวอ้างโดยใช้การถ่ายภาพกับบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อใช้ในการข่มขู่ให้ผู้อื่นเกรงกลัว อีกทั้งผู้ต้องหายังใช้อาวุธปืนโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง

ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าว คือ นายวทัญญู จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาตลิ่งชัน เมื่อวันที่ 25 เม.ย.66 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจว่าตนเป็นบุคคลอื่น ซึ่งได้กระทำโดยมีอาวุธปืน

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายวทัญญู หรือ นายเจต ได้ที่บริเวณบ้านพักในพื้นที่ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลยพร้อมตรวจค้นพบอาวุธปืน จำนวน 3 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้จับกุม นายวทัญญูฯ ในความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร จากนั้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล ได้อายัดตัว นายวทัญญู ตามหมายจับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติของ นายวทัญญู พบว่า เคยต้องหาคดีอาญามาแล้ว จำนวน 2 ครั้ง โดย ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2555 ถูกดำเนินคดีในข้อหา ไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ ที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ ครั้งที่ 2 เมื่อปี พ.ศ.2564 ถูกดำเนินคดีในข้อหายักยอก ที่ สน.ตลิ่งชัน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นบุคคลที่เคยมาขอความช่วยเหลือตน และได้มีภาพที่ถ่ายด้วยกัน แต่กลับนำภาพดังกล่าวไปใช้ในการกล่าวอ้างเพื่อข่มขู่ผู้อื่น อีกทั้งยังใช้อาวุธปืนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงได้สั่งการให้ตามจับมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มบุคคลซึ่งมีพฤติการณ์กล่าวอ้างชื่อหรือภาพของบุคคลอื่น รวมทั้ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อไปกระทำการที่ผิดกฎหมาย หากได้รับแจ้งหรือได้รับการร้องเรียนก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทุกราย และหากประชาชนพบเห็นพฤติการณ์ดังกล่าวสามารถแจ้งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามกฎหมายได้ทางช่องทาง 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง  






กำลังโหลดความคิดเห็น