xs
xsm
sm
md
lg

รวบ "ยุทธ ท่าเรือ" หลอกชวนเหยื่อลงทุน ผลตอบแทน 100% ต่อปี เสียหาย 2 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมตัว "ยุทธ ท่าเรือ" หลอกเหยื่อร่วมลงทุน อ้างได้ผลตอบแทน 100% ต่อปี มูลค่าความเสียหาย 2 ล้านบาท

วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะ หน. PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ยิ่งยศ ลีชัยอนันต์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมชุด PCT 5 ได้ร่วมกันจับกุมนายศักย์ศรณ์ สิทธิศักดิ์ หรือศรณ์ หรือยุทธ ท่าเรือ อายุ 47 ปี อยู่ที่ 828 ถนนเทศบาล 5 ตำบลท่าเรือ อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1826/2565 ลงวันที่ 21 ธ.ค.2565 ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จับกุมตัวได้ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารจอดรถภายในห้างสรรพสินค้าเดอะ สตรีท รัชดา ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) ได้เร่งรัดให้ดำเนินการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลร่วมกับชุด PCT 5 ได้รับแจ้งเบาะแสพฤติกรรมของยุทธ ท่าเรือ หลอกให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนระดมทุน โดยอ้างให้ผลตอบแทนคิดเป็น 100% ต่อปี หรือ 10% ต่อเดือนเป็นอย่างน้อย โดยใช้วิธีการให้นักลงทุนหรือลูกค้ามาทำสัญญาคู่ค้าร่วมหรือกิจการร่วมค้า และให้ค้ำประกันเป็นสลากออมสิน แต่มิได้บอกว่าสลากออมสินนั้นเปิดเป็นประเภทบุคคลธรรมดา โดยมีชื่อเป็นผู้ทรงตั๋วร่วมกับเจ้าของเงินด้วย ซึ่งถ้าเจ้าของเงินที่หลงเชื่อร่วมลงทุนไม่เข้าใจระบบการเงินจะตกเป็นเหยื่อทันที โดยผู้ก่อเหตุไม่แจ้งข้อมูลนี้ให้ผู้ที่หลงเชื่อร่วมลงทุนทราบ รวมทั้งมีพฤติการณ์หลอกให้ผู้เสียหายโอนค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าทนาย ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่ให้ความร่วมมือที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จากการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียหายที่ได้มีการร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนไว้พบมูลค่าความเสียหายของผู้เสียหายแต่ละราย รายละกว่า 900,000 บาท มูลค่าความเสียหายร่วมกว่า 2,000,000 บาท ซึ่งเมื่อวิเคราะห์จากพฤติการณ์ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเชื่อว่าน่าจะมีผู้เสียหายที่เคยถูกก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก ตลอดจนเชื่อว่ามีผู้ที่อยู่ระหว่างถูกก่อเหตุ หรือเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมรายอีก

เมื่อตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบข้อมูลประวัติเคยถูกดำเนินคดี 4 และมีหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อดำเนินคดีอีก 2 หมายจับ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และประสานแจ้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในส่วนของหมายจับที่ยังต้องการตัวเพื่อให้รีบอายัดตัวผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบถ้วนต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น