พบ"แอม"สั่งไซยาไนด์ทางออนไลน์ เตรียมสอบสองบริษัทขนส่งนำจ่ายพัสดุ เบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลพี่สาวที่เป็นเภสัชฯ ร่วมกระทำความผิดด้วย
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ หรือแอม รังสิวุฒาภรณ์ วางยาฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย เท้าแชร์ อายุ 33 ปี ว่า วันนี้ได้เชิญ น.ส.นิภาวรรณ หรือ ส้ม ซึ่งเป็นพี่ของก้อย ในฐานที่เป็นผู้ที่อยู่ในช่วงก่อนเกิดเหตุ และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังได้สอบ สามีของผู้เสียชีวิตอีก1ราย ที่ จ.มุกดาหาร ที่ผู้ต้องหาส่งยาแคปซูล อ้างเป็นยาพวกบำรุงไปให้กิน ก่อนจะเสียชีวิต รวมถึงออย 1ในลูกแชร์ ที่ผู้ตายเคยมาถามว่า เวลาตำรวจจะตามหาคน จะทำอย่างไร ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเรียก นายรพี ชำนาญเรือ แกนนำประชาชนเพื่อประชาชน ซึ่งเป็นผู้สานงานกับผู้เสียหายเข้าให้ปากคำในวันที่ 29 เม.ย.66
พ.ต.อ.เอนก กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่พี่สาว นางแอม ที่เป็นเภสัชกร นั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสารไซยาไนด์ใช้ก่อเหตุฆ่า น.ส.ก้อย หรือไม่นั้น ขณะนี้ทางตำรวจกองปราบปรามกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าสารดังกล่าว นางแอมสั่งซื้อมาจากช่องทางอื่น ทั้งนี้โดยปกติสารดังกล่าวซึ่งเป็นสารควบคุมใช้ในกลุ่มอุตสหกรรมต่างๆ ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ส่วนพี่สาวของนางแอมจะให้คำปรึกษาเรื่องวิธีการใช้หรือไม่นั้นก็ต้องรอสอบปากคำอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเรายังไม่พบว่ามีคนอื่นร่วมกระทำความผิด ซึ่งยังเชื่อว่านางแอม ลงมือคนเดียวไม่มีใครร่วมมือด้วย เนื่องจากแผนประทุษกรรม จะอาศัยความใกล้ชิดส่วนตัวเพื่อลงมือ ซึ่งก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางพี่สาวของนางแอมด้วย
พ.ต.อ.เอนก กล่าวถึงกรณีพฤติกรรมโหดเหี้ยมฆ่าผู้อื่นนับสิบรายจะมีอาการผิดปกติทางจิตหรือไม่ว่า จากการสอบปากคำ นางแอม เบื้องต้นไม่พบว่า มีอาการผิดปกติทางจิตแต่อย่างใด ซึ่งเขาก็พูดจาเหมือนคนปกติทั่วไป ทั้งนี้ก็ต้องรอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
"คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้สังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียนรู้ และตระหนัก รวมไปถึงควบคุม และป้องกันการซื้อสารอันตรายในลักษณะนี้มากขึ้น ส่วนการขยายผลทางเส้นทางการเงิน ตำรวจเห็นเส้นทางการเงินแล้ว มีทั้งธุรกิจการจำนำรถยนต์ ซึ่งหลังจากนี้น่าจะมีอะไรที่ตื่นเต้นมากกว่านี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล" รอง ผบก.ป. กล่าว
รายงานแจ้งว่า สารไซยาไนด์ ที่ใช้ก่อเหตุนั้น นางแอม สั่งซื้อมาจากช่องทางออนไลน์ เนื่องจากสอบปากคำกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ทราบว่า ช่วงก่อนสงกรานต์ นางแอม ได้นำกล่องพัสดุ นำจ่ายในชื่อของตัวเองที่หน้ากล่อง มาให้ก่อนว่าจ้างให้นำขวดยาในกล่องดังกล่าวไปฝังดิน โดยให้ค่าจ้าง 500 บาท ด้วยความสงสัยหนึ่งกลุ่มวัยรุ่นจึงเปิดกล่องแล้วดมสารดังกล่าว จากนั้นก็มีอาการวิงเวียนศีรษะมึนงงไป 3 วัน อย่างไรก็ตามทางกลุ่มวัยรุ่นก็ยังไม่ได้นำขวดยาดังกล่าวไปฝังตามที่รับปากไว้เพราะมัวแต่เล่นสงกรานต์จนเพลิน เมื่อนางแอม โทรไปสอบถามทราบว่ายังไม่ได้นำไปฝังจึงได้ขับรถไปหา แต่ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้ยึดขวดสารไซยาไนด์ไปแล้ว ต่อมา นางเเอม ก็ได้ไปค้นหากล่องพัสดุที่ระบุชื่อของตัวเองก่อนนำไปทำลายหลักฐาน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกับบริษัทขนส่งสองบริษัทเพื่อหาหลักฐานว่ามีการส่งพัสดุให้ นางแอม หรือไม่เพื่อมัดตัวผู้ต้องหาต่อไป