MGR Online - "รองโจ๊ก" ยอมรับสนิทจริง "ทนายตั้ม" ปัดสั่งให้ตำรวจท่องเที่ยวขนกระเป๋า ไม่เคยรับของขวัญราคาแพง ปรามอีกฝ่ายเป็นทนายประชาชน ไม่ใช่เซเลบ ต้องทำจริง ไม่ใช่หิวแสง
วันนี้(25 เม.ย.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมือง ได้โพสต์คลิปตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวกให้กับลูกความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมระบุว่าทนายตั้มมีความสนิทสนมกับตนเอง ว่า ยอมรับว่าสนิทกับทนายตั้มจริง หลายคนนนก็มีความสนิทเพียงแต่ว่าทนายตั้มเป็นคนชอบโพสต์ ภาพเหล่านี้จึงออกไปปรากฎต่อสาธารณะ การรู้จักกันสนิทกันไม่ได้หมายความว่าให้ทนายตั้มไปทำผิดกฎหมายได้
"ส่วนที่ตำรวจท่องเที่ยวไปหิ้วกระเป๋ากับภาพที่ปรากฏ ต้องเรียนว่าผมไม่ได้สั่ง นิสัยผมเป็นคนเข้มงวดเรื่องวินัยผมจะไม่สั่งลูกน้องทำแบบนี้อยู่แล้ว อีกอย่างการที่มีตำรวจท่องเที่ยวไปรับใครก็ตามที่เป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจท่องเที่ยวต้องตรวจสอบให้ได้ว่าพฤติกรรมแบบนี้ใครสั่ง มันหาไม่อยากว่าใครสั่งแล้วไปรับได้อย่างไร มันเสียหายภาพลักษณ์ตำรวจ เพราะฉะนั้นขอเรียนตรงๆ ว่าเราเป็นตำรวจรู้จักทุกคนได้หมด แต่ว่ารู้จักผมแล้วจะทำผิดกฎหมายได้ ไม่ใช่ว่ากินข้าวกับผมแล้วจะไปยิงใครก็ได้ ถ้ากินข้าวกัน รู้จักกันถ้าทำผิดกฎหมายก็จับแล้วห้ามโกรธกัน"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว และว่า กับทนายตั้มรู้จักกันยังไม่มีอะไรที่เป็นความผิด ถ้าเป็นความผิดก็ต้องดำเนินคดีกับทนายตั้มเช่นเดียวกัน ทุกอย่างมาตรฐานเดียวกันหมด ที่มีภาพตนปรากฏกับทนายตั้มเป็นภาพจริง เขาเป็นทนายบางทีก็มีกลุ่มเพื่อนทนาย ก็มีการพูดคุยเรื่องคดีต่างๆ เพราะผมทำงานด้านสืบสวนสอบสวน บางทีคนอื่นเอาไปโพสต์หรือตั้มนำไปโพสต์จึงเกิดประเด็นขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าทนายตั้มนำภาพไปโพสต์จะเกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ไม่กระทบอะไร ทุกวันนี้ทนายตั้มก็มีคดีความอยู่ ซึ่งคดีความของเขาก็ต้องไปต่อสู้เอง วันนี้ไม่มีใครมาฟังเขา แม้แต่อัยการยังสั่งคดีเขาอยู่ ไม่มีใครไปแทรกแซงได้ ผมเองก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับคดีเขา ขนาดตำรวจด้วยกันผมยังจับถ้าทนายตั้มผิดผมก็ต้องจับ อย่าไปคิดว่ากินข้าวกับผม รู้จักกับผมแล้วต้องทำผิดกฎหมายได้ เราเป็นตำรวจเรารู้จักคนทุกสังคมไม่ว่าจะเป็นคนข้างบนหรือข้างล่าง ไม่ใช่แต่ทนายตั้มที่รู้จัก หรือ กินข้าวคนอื่นก็เหมือนกันเพียงแต่ทนายตั้มชอบโพสต์
เมื่อถามถึงการที่ทนายตั้มซื้อของแบรนด์เนมอย่างเช่น เสื้อ เนคไท มามอบให้ผิดระเบียบของราชการหรือไม่ รอง ผบ.ตร. ถามกลับว่าซื้อให้ใคร ภาพที่ปรากฏไม่ใช่วันเกิดของตน แต่เป็นวันเกิดของภรรยาเขาไม่ได้ซื้อให้ผม ผมไม่เคยเอาของอะไรของเขามาเลย ไม่มีใครซื้อของมาให้ผมได้ ทนายตั้มไม่มีปัญญาซื้ออะไรมาให้ผม มีแต่ผมต้องให้เขาด้วยซ้ำ ใครจะพูดอะไรก็ตามอยู่ที่ความเป็นจริง ส่วนทนายตั้มวันนี้เมื่อเขาทำอะไรไปผลลัพธ์ก็เกิดกับเขาเอง วันนี้จะเห็นว่าสิ่งที่เขาทำอะไรไปจริงบ้างไม่จริงบ้าง สุดท้ายผลลัพธ์ก็ตกอยู่กับตัวเอง โลกโซเชียลฯ ใครทำจริงไม่จริงไม่ต้องรอให้ใครมารายงาน สังคมตรวจสอบเอง
ถามต่อว่าจะเรียกทนายตั้มมาปราม หรือถอยห่างออกมาหรือไม่ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ภาพลักษณ์เสียหาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า อันไหนคือพวกก็คือพวก หลักของผมไม่ใช่ว่าวันนี้เขาแย่แล้วเราจะไปทิ้งเขาไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่ว่าเราไม่ช่วยสนับสนุนเขาทำในสิ่งไม่ถูกต้อง เพื่อนคือเพื่อน พวกคือพวก ทนายตั้ม
"ผมปรามไปเยอะแล้ว บอกไปตั้งนานแล้วว่าการเป็นทนายเพื่อประชาชนมันไม่ใช่ทนายที่หิวแสง การเป็นทนายประชาชนต้องไม่ใช่ทนายเซเลบ ต้องเป็นทนายที่ทำจริง ทำให้ประชาชนเห็น (ดูเหมือนเขาจะไม่ฟัง) เขาไม่ใช่ญาติผมเขาจะฟังผมได้ไง แต่เราก็เตือนในฐานะเป็นน้อง ผมไม่ได้สนิทถึงขนาดที่ต้องไปบอกให้เขาทำอะไรได้ แต่ถามว่าที่ผ่านมาเราดีกันแต่วันนี้อยู่จะให้ไปตัดกันเลยไม่ได้ วันนี้เขาตกอับเราจะไปทิ้งเขาก็เป็นคนที่คบไม่ได้"รอง ผบ.ตร.ระบุ
ส่วนกรณีที่นายชูวิทย์ ได้เตือนให้ระวังการกระทำของทนายตั้มจะทำให้ได้รับผลกระทบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณพี่ชูวิทย์ แต่ผมรู้ว่าผมอยู่แค่ไหน ผมรู้จักกับใครก็กินข้าวกัน บางคนเป็นผู้ต้องหาที่ประกันตัวออกมาผมก็กินข้าวด้วย แต่ถ้าไม่โพสต์ก็ไม่มีคนรู้
"ทนายตั้มเป็นคนชอบโพสต์ก็ได้มีการเตือนไปตั้งนานแล้วเป็นทนายประชาชนต้องทำจริงแต่ไม่ใช่ทนายหิวแสง หรือทนายเซเลป สิ่งที่เขาเจอวันนี้เป็นบทเรียน ไม่ต้องมีใครสอนเขา สิ่งที่เขากำลังเจอจะเป็นบทเรียนให้เขา ส่วนผมจะโดนกระทบกระทั่งบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าเรารู้จักกัน คนสองคนทะเลาะกันสะเก็ดกระเด็นมาถูกผมบ้างก็ไม่เป็นไร และการที่คนสองคนทะเลากันผมก็ไม่ไปยุ่งเกี่ยว ไม่โกรธพี่ชูวิทย์ เพราะผมถือว่าไม่เป็นเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องจริงป่านนี้ ผบ.ตร.ตั้งกรรมการสอบผมไปแล้ว ส่วนที่มีการคุยกับคุณชูวิทย์ วานนี้เพราะเห็นเขาโพสต์ก็อธิบายให้เขาฟังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ใครทำก็ต้องรับผิดชอบไป"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวทิ้งท้าย