MGR Online - "ชูวิทย์" ลากกระเป๋าเดินทางบุกสตช. ร้อง ผบ.ตร. ตรวจสอบ 2 ตำรวจท่องเที่ยวอำนวยความสะดวกขนกระเป๋าให้ "ทนายตั้ม" ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องหรือไม่ เชื่อมีผู้ใหญ่สั่ง เตือน "รองโจ๊ก" จะเป็นใหญ่ในอนาคต ระวังคนรอบข้างเอาไปแอบอ้างหากิน
วันนี้(25 เม.ย.)เมื่อเวลา 11.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง นำเอกสารและคลิปวิดีโอ เข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่ปรากฏภาพ 2 นายตำรวจท่องเที่ยว อำนวยความสะดวกยกกระเป๋าให้กับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และเพื่อนหญิง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ตามเวลาหรือไม่ ได้อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนทั่วไปเช่นเดียวกันนี้หรือไม่ ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาหรือไม่ และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ตรวจสอบการสำแดงทรัพย์สินของนายษิทรา เมื่อเดินทางเข้าประเทศหรือไม่ โดยมี
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนรับเรื่อง ทั้งนี้ ในการเข้าร้องเรียนในวันนี้ นายชูวิทย์ ได้ลากกระเป๋าเดินทางเดินเข้าภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วย
นายชูวิทย์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อแสดงเจตจำนงค์ในการสลายค่านิยม VVIP ในประเทศไทย และยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องส่วนตัวหรือการแฉกันไปมา แต่เป็นการพูดเพื่อประโยชน์ของสังคม เพื่อให้รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้หากไม่มีผู้บังคับบัญชาสั่งการ ตำรวจย่อมไม่สามารถกระทำด้วยตนเองได้ พร้อมฝากเตือนไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ต้องระมัดระวังคนรอบข้าง วานนี้ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แล้ว ยืนยันว่าไม่โกรธเคืองกัน เป็นการเตือนด้วยความหวังดี
“ผมเรียนให้ทราบแบบนี้ คนที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะต้องระมัดระวังตัวคนรอบข้างที่จะเอาไปแอบอ้างและอวดอ้าง จะไปหากินโชว์ใครต่อใคร ถ้าเป็นคนขายเฉาก๊วยมันก็ไม่มีปัญหา แต่นี่เป็นทนายเอาไปใช้หากินได้หรือเปล่า เอาไปแอบอ้างกับลูกความได้หรือเปล่า อันนี้อันตราย จึงขอเตือนท่านบิ๊กโจ๊กต้องระวัง คนที่จะเป็นนัมเบอร์วันของ ผบ.ตร. ตำแหน่งนี้ไม่มีปัญหาตามคิว แต่ถ้าเกิดไม่ระวังตัวก็อาจตกคิวด้วย อันนี้ก็ไม่เบามีอะไรก็มาอวด แบบที่ผมเอามาเปิดว่ามีการเอาเนคไทมาให้ คุณคิดว่าแบบนี้มันจะถูกหรือเปล่า ถ้ารับกันไปเงียบๆ สนิทสนมกันเงียบๆก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็โพสต์ขี้ช้าง โพสต์ไปประชุม ผมถามจริงๆ มีใครคนไหนทำแบบนี้บ้าง” นายชูวิทย์ กล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่มีการพาดพิงถึงลูกชายของตนว่ามีการวิ่งเต้นเพื่อขอเป็นนายทหารนั้น ยอมรับว่าครอบครัวคนไทยต้องการส่งเสริมให้ลูกได้ดี แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงไม่ได้รับโอกาสนั้น ลูกชายตนจึงเป็นเพียงพลทหาร ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เมื่อลูกชายตนปลดประจำการแล้วก็ไม่ได้ไปสมัครเป็นนายทหารแต่อย่างใด กลับมาเป็นประชาชนทั่วไปเช่นเดิม และยังตั้งข้อสังเกตว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว เหตุใดจึงกลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง
ด้าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าว ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว พร้อมสั่งให้ทบทวนมาตรการอำนวยความสะดวกของตำรวจท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อให้มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และจะนำข้อมูลที่นายชูวิทย์ นำมามอบให้ภายในวันนี้ไปประกอบการพิจารณาด้วย
