xs
xsm
sm
md
lg

อิคคิว-พล.อ.สมชาย ลูก-พ่อ คู่เวรคู่กรรม จบชีวิต…วันเดียวกัน!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ อิคคิว-พล.อ.สมชาย ลูก-พ่อ คู่เวรคู่กรรม จบชีวิต…วันเดียวกัน!?



เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายได้ว่า ทำไมชีวิตอันรุ่งโรจน์โชติช่วงของสองพ่อลูก พล.อ.สมชาย ชัยวนิชยา และ “อิคคิว” นักเรียนเตรียมทหาร ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา อายุ 18 ปี ต้องพังทลายลงในวันเดียวกัน

พล.อ.สมชาย ผู้เป็นพ่อ ถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง “ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคคลภายนอก” เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566 ส่วน “อิคคิว” ก่อเหตุใช้ปืนยิงแฟนสาวเนตไอดอลดัง “จีจี้” น.ส.สุพิชชา หรือจีจี้ ปรีดาเจริญ อายุ 22 ปี แล้วยิงตัวตายคู่กัน

พ่อแม่ฝ่ายหญิง ไปพบศพในคอนโดฯ ย่านอโศก เมื่อวันที่ 19 เม.ย. แต่เหตุเกิดก็น่าจะเป็นวันที่ 18 เม.ย. วันเดียวกันกับที่ พล.อ.สมชาย ถูกมติเอกฉันท์ของที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการ หรือ ก.ต. สั่งปลด

เหตุสลดของเด็กๆ ที่เกิดขึ้น ก็ตรงกับวลีที่ว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” เลี้ยงลูกกันแบบสปอยจนเสียคน ถึงขนาดแม่ของอิคคิว ก็เคยยอมรับกับแม่ของจีจี้ว่า ควบคุมอิคคิวไม่ได้แล้ว เพราะเลี้ยงดูแบบตามใจ

กลายเป็นเด็กหนุ่มที่มีอารมณ์รุนแรง ควบคุมตัวเองไม่ได้ หึงหวงขึ้นมา ก็เห็นแฟนสาวสวยเป็นกระสอบทราย ซ้อมจนหน้าตาบวมปูด แถมยังชอบอวดการเล่นปืน พอโกรธฝ่ายหญิงก็ขู่จะยิงซ้ำ แถมด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

พฤติกรรมของนักเรียนเตรียมทหาร ระดับประธานรุ่น 65 คนนี้ เป็นไฮโซได้ก็แค่เปลือก ยิ่งมาจบชีวิตตัวเองด้วยปืนของผู้เป็นพ่อ งานนี้จึงโทษเด็กฝ่ายเดียวไม่ได้

จริงๆ แล้ว พล.อ.สมชาย คาดหวังจะให้ลูกมีอนาคตสดใส ไปไกลถึงตำแหน่ง ผบ.ทบ. จึงไม่อยากให้ชีวิตลูกต้องมาด่างพร้อยกับการมีแฟนเป็น “เนตไอดอล”

ขณะที่ทางบ้านของฝ่ายหญิง ชาวบ้านธรรมดา ก็ไม่อยากให้ลูกสาว ต้องมาคบกับลูกนายพลไฮโซ เพราะเป็นคนอารมณ์ร้อน ชอบทุบตีทำร้ายผู้หญิงอย่างสุดเถื่อน ไร้คุณสมบัติความเป็นสุภาพบุรุษ เป็นพฤติกรรมที่ยากจะยอมรับ

และเนื่องจากมีประเด็นลูกเอาปืนของพ่อ มายิงคนอื่นตาย ทางครอบครัวของจีจี้ คงไม่ปล่อยผ่านไปได้ง่ายๆ น่าจะมีการฟ้องร้องคดีละเมิด ให้พ่อผู้เป็นเจ้าของปืน และเลี้ยงลูกให้เป็นคนนิยมความรุนแรง ต้องรับผิดชอบค่าชีวิต “จีจี้” ที่แตกดับไป

การที่ พล.อ.สมชาย พาภรรยา โผล่มากราบขอขมาศพจีจี้ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมาหมาดๆ น่าจะไม่ช่วยอะไร เนื่องจากจีจี้ ถือเป็นเด็กกตัญญู ที่เป็นเสาหลักของครอบครัว ความสูญเสียนี้ของครอบครัวเธอ นับว่าหนักหนาสาหัส

อย่างไรก็ตาม วิบากกรรมของ พล.อ.สมชายนับว่าหนักหนา ไม่เพียงแต่จะเสียลูกชายคนโปรด ไม่ใช่แค่จะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการกระทำของลูก

ตัว พล.อ.สมชาย ทุกวันนี้ ก็ยังมีคดีติดตัวอยู่ ที่ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย เขาถูกนักธุรกิจพลังงานคนหนึ่ง ฟ้องร้องคดีฉ้อโกง วงเงินเป็นหลักร้อยล้าน

และคดีติดตัวนี่เอง ที่เป็นสาเหตให้ พล.อ.สมชาย ถูกที่ประชุม ก.ต. ถอดถอนจากตำแหน่ง ด้วยมติเอกฉันท์ ไม่มีเสียงแตก

เบื้องลึกเบื้องหลังคดีนี้ มีเจ้าทุกข์ชื่อ นายทวีป วานิชหานนท์ นักธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้า เขามาขอความช่วยเหลือจากนายเชาว์ มีขวด ทนายอาสาคนดัง ระบุว่าถูก พล.อ.สมชายฉ้อโกง และกรรโชกทรัพย์

เหตุจากนายทวีป ฟ้องกรุงเทพมหานคร เรียกค่าเวนคืนที่ดินต่อศาลปกครองสูงสุด จำนวน 165 ล้านบาท ซึ่ง พล.อ.สมชาย รับปากจะช่วยนายทวีป แต่ขอค่าวิ่งเต้น 50%

สุดท้าย ศาลปกครองสูงสุด ตัดสินให้นายทวีปชนะคดี แต่จะได้รับค่าเวนคืนเพียง 40 กว่าล้าน ไม่ใช่ 165 ล้าน นายทวีปจึงจะไม่ให้ส่วนแบ่ง พล.อ.สมชาย ตามที่ตกลงกันไว้

ผลก็คือ ถูกข่มขู่ และมีการอ้างชื่อถึงตุลาการศาลปกครองสูงสุดด้วย จนในที่สุดนายทวีปจำยอมต้องจ่ายเงินให้ พล.อ.สมชาย กับพวก ไปกว่า 30 ล้านบาท มีการออกแคชเชียร์เช็ค โอนเข้าบัญชีให้ตุลาการศาลปกครองสูงสุด 2 คน ตามที่ พล.อ.สมชาย แจ้งมา

แต่แล้ว นายทวีปก็ตาสว่าง เมื่อไปตรวจสอบรายชื่อคนที่รับเงินไป ปรากฏว่าไม่ใช่ตุลาการที่ไหน แต่เป็นแม่ยายและน้องเมีย ของพล.อ.สมชาย
จริงๆ นายทวีปไม่ได้ใช้บริการ พล.อ.สมชาย เรื่องนี้เรื่องเดียว ยังมีคดีล้มละลายอีกคดี โดย พล.อ.สมชาย ก็รับงานวิ่งเต้น อ้างว่าสามารถช่วยให้นายทวีป ได้รับเงินจากคำขอรับชำระหนี้ถึง 274 ล้านบาท โดย พล.อ.สมชายขอส่วนแบ่งจากงานนี้ 50% เช่นกัน

แต่ต่อมา นายทวีปไปสืบทราบว่า พล.อ.สมชายกับพวกทนายความ ปกปิดข้อเท็จจริงว่านายทวีปจะได้เงินแค่ 154 ล้านบาท แบบว่ารู้แก่ใจ แต่ไม่บอกให้นายทวีปรู้

นายทวีปจึงจัดการขุดคุ้ยพฤติกรรมของ พล.อ.สมชาย จนรู้ว่า พล.อ.สมชายเป็นคนอย่างไร จึงนำมาสู่การฟ้องร้อง พล.อ.สมชายกับพวกรวม 4 คน คดีฉ้อโกงและกรรโชกทรัพย์ และรับของโจร เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2565 ที่ศาลแขวงดอนเมือง ก่อนที่จะโอนคดีมาฟ้องที่ศาลอาญา ในเวลาต่อมา

เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ. 270 / 2566 ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาได้รับฟ้องไว้พิจารณา และจะนัดไต่สวนคำฟ้องในวันที่ 8 พ.ค. 2566 ที่จะถึงนี้

ถัดมาไม่ถึง 1 เดือน พล.อ.สมชาย กลับได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง “กรรมการตุลาการศาลยุติธรรมผู้ทรงคุณวุฒิ” ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในองค์กรศาล มีอำนาจหน้าที่ให้คุณให้โทษต่อข้าราชการฝ่ายตุลาการ และประชาชน ผู้มีอรรถคดีโดยตรง

นายเชาว์ มีขวด พอรู้เช่นนั้น จึงได้ทำหนังสือร้องเรียนต่อประธานศาลฎีกา และกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2566 เพื่อให้สอบสวนและวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติของ พล.อ.สมชาย เพราะมั่นใจว่า พล.อ.สมชาย ปกปิดข้อมูลเรื่องที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างแน่นอน

อันเท่ากับ พล.อ.สมชาย ขาดคุณสมบัติที่จะมาเป็น ก.ต. ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ มาตรา 41 (5)

ที่ประชุม ก.ต. พิจารณาเรื่องนี้อย่างไม่ชักช้า จนนำมาสู่ มติเอกฉันท์ ปลด พล.อ.สมชาย ชัยวนิชยา เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2566
และวันเดียวกันนั้นเอง “อิคคิว” ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ผู้คลั่งรัก ของพลเอก สมชาย ก็ใช้ปืนจบชีวิต “จีจี้” และตัวเอง ถือเป็นเรื่องราวชะตากรรม และเหตุโศกนาฏกรรมที่เป็นข่าวเศร้าสะเทือนใจ

-------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น