อุกอาจกลุ่มวัยรุนนนทบุรี ยกพวก 6 คน กลางดึกบุกบ้านคู่อริบริเวณท่าเรือลพชัย ปากเกร็ด จ่อยิงขณะนอนเล่นในเปลเจ็บสาหัส ญาติๆหามส่งรพ.เพื่อนคนเจ็บยืนยันไม่เคยมีเรื่องบากหมางกับใคร
วันที่ 24 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากน.ส.บุญหลาย (ขอสงวนนามสุล) อายุ 59 ปี และนายหนวด สองสามี-ภรรยา ว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.ซ้อนสองมาทั้งหมด 3 คัน 6 คน ก่อเหตุบุกบ้านใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนของลูกชายขณะนอนเล่นมือถืออยู่บนเปลหน้าบ้าน ทราบชื่อคือ นายสมพงษ์ สุขสันต์ หรือเต้ย อายุ 22 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณท้ายทอยหลังถูกยิง 1 นัด มีเลือดไหลเต็มหัว ก่อนนำตัวส่ง รพ.ปากเกร็ด2 ที่เกิดเหตุภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือลพชัย ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนมบุรี บริเวณหน้าบ้านยังพบกองเลือดหลายกองอยู่บนพื้น พบกระสุนปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด ตกอยู่บนเปลที่คนเจ็บนอน แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.ปากเกร็ด
น.ส.บุญหลาย กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.30 น. เพื่อนสนิทของลูกชายตนชื่อ เต้ย ได้นอนเล่นมือถือในเปลอยู่บริเวณหน้าบ้านคนเดียว ซึ่งตอนนั้นตนกำลังเอาขวดนมหลานมาล้างที่หน้าบ้านพอดี ปรากฎว่ามีกลุ่มวัยรุ่นขี่จยย.ซ้อนท้ายมา 3 คัน คันละ 2 คน จากนั้นผู้ก่อเหตุที่เป็นคนซ้อนท้าย 3 คัน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบทั้งหมด ได้เดินมาตรงจุดที่เต้ยนอน ได้มีปากเสียงกับผู้ก่อเหตุจากนั้นใช้อาวุธปืนจ่อไปที่หัวของเต้ยแล้วยิง 1 นัด เข้าบริเวณท้ายทอยเลือดเต็มหัว ตนตกใจมากจึงรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือสุดเสียง คนร้ายจึงรีบวิ่งไปที่รถจยย.ขับหลบหนี ตนเห็นภาพนั้นแล้วติดตาสงสารเต้ย คนร้ายบุกเข้ามาบ้านไม่เกรงกลัวใครเลยเอาปืนจ่อยิงทั้งๆ ที่คนเจ็บนอนอยู่บนเปลเพียงคนเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวตนคิดว่าอุกอาจเกินไปหากตนไม่ตะโกนเสียงดังผู้ก่อเหตุอาจจะใช้อาวุธปืนยิงซ้ำอีกครั้งก็เป็นได้
น.ส.บุญหลาย กล่าวต่ออีกว่า ที่บ้านตนไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ใครเดินผ่านไปผ่านมาตนจะรู้หมดรวมถึงเพื่อนของลูกชายตนก็รู้จักหมด โดยเฉพาะเต้ยคือคนเจ็บ จะสนิทกับลูกชายตนมาก ชอบมานอนเล่นที่บ้าน ปกติแล้วเต้ยเป็นคนเงียบๆไม่น่าจะมีปัญหากับใคร สุดท้ายอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ให้รีบเร่งนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ตอนนี้ขนาดอยู่บ้านยังไม่ปลอดภัย บุกเข้ามายิงแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตอนนี้ต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เพราะกลัวคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุซ้ำอีก
นายวุฒิ คนขับเรือรับจ้าง กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่บริเวณโป๊ะเรือรับจ้าง เห็นกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบทุกคนได้ตะโกนพูดท้าทายคนเจ็บอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัด แล้วได้ยินเสียงคุณป้าที่อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ตะโกนขอความช่วยเหลือกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง หลังจากที่ยิงเสร็จทางผู้ก่อเหตุได้ท้าทายอีกครั้ง แล้วเดินออกจากที่เกิดเหตุไปหน้าตาเฉยไม่มีท่าทีจะรีบหลบหนี ส่วนคนที่โดนยิงตนก็ไม่ทราบว่าเป็นไงบ้าง เพราะหลังจากได้ยินเสียงปืนดัง ก็ไม่พบผู้บาดเจ็บแล้วคาดว่าน่าจะวิ่งหนีตาย ที่เกิดเหตุตรงนี้เกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง จึงอยากให้ทางเทศบาลนครปากเกร็ดเปิดไฟริมเขื่อนให้นานกว่าเดิมเพื่อที่จะป้องกันเหตุการใช้ความรุนแรง หรือป้องกันมิจฉาชีพได้
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 เม.ย.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุไปยังบริเวณท่าเรือลพชัย ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สอบถามนางเอมอร บุรีวงศ์ อายุ แม่ค้า 64 ปี แม่ค้าขนมตาล ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ตนนั่งดูทีวีดูข่าวอยู่ที่ร้านขายขนมได้ยินเสียงปืนดังลั่น 1 นัด แล้วก็ได้ยินเสียงคนร้องกรี๊ดดังขอความช่วยเหลือจึงรีบปิดประตูแล้วแอบมองดูผ่านรูประตูหน้าบ้านพบว่ามีวัยรุ่นประมาณ 3 คน โดยคนแรกวิ่งไปก่อน แล้วอีด 2 คนวิ่งตามหลังมา พร้อมได้ยินเสียงว่า "ไปไหนแล้วละ" แล้วก็วิ่งหนีหายไป ตนรู้สึกชินกับเรื่องพวกนี้เพราะตรงนี้เกิดเหตุบ่อยชาวบ้านบางคนก็เอือมระอา บางคนก็หวาดกลัว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง รพ.ปากเกร็ด 2 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังจากทราบว่านายสมพงษ์ สุขสันต์ หรือเต้ย อายุ 24 ปี นอนรักษาตัวอยู่ที่รพ.ดังกล่าว พบกับนายจตุพร จุนพูสิ หรือคิม อายุ 22 ปี เป็นรุ่นน้องของนายเต้ย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์มีตน เพื่อนตน และพี่เต้ยคือคนเจ็บ อยู่กัน 3 คน โดยพี่เต้ยนอนเล่นอยู่บนเปล ต่อมาได้มีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน ได้จอดรถจยย.บริเวณข้างบ้านแล้วเดินอ้อมมามุ่งตรงไปที่คนเจ็บก่อนใช้อาวุธปืนยิง 1 นัด ทำให้คนเจ็บรีบวิ่งหนีตายออกจากบ้าน แล้วคนร้ายก็รีบวิ่งหนีไป หลังจากตนได้ยินเสียงก็รีบวิ่งไปเอารถจยย.ขี่ไปรับคนเจ็บที่วิ่งหนีตายไปส่ง รพ.ปากเกร็ด2 จากที่ตนเห็นกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มีอาวุธครบมือทุกคนมีทั้งปืน และมีดเป็นมีดดายหญ้าที่ตนเห็น แต่งตัวใส่หมวกกันน็อคเต็มใบปิดบังใบหน้าพร้อมก่อเหตุ พี่ของตนพึ่งศึกจากเป็นพระมาไม่นานไม่คาดคิดว่าจะโดนแบบนี้ จึงอยากฝากตำรวจให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนทางด้านนายนาย วชิรพล ช่อนกลิ่น หรือรามี่ อายุ 24 ปี ลูกเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ตนยืนยันได้ว่าเพื่อนตนที่เป็นคนเจ็บไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับผู้ก่อเหตุคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุคึกคะนองอยากจะมีชื่อเสียงในด้านนี้ ตนและเพื่อนตนตอนนี้ทำงานหาเงินกันทุกวันไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร ตอนเย็นก็มานั่งจับกลุ่มเล่นเกมที่บ้านตามปกติทั่วไป สุดท้ายอยากฝากถึงผู้ก่อเหตุให้มามอบตัวกับตำรวจโดยเร็ว มารับผิดชอบกับเหตุที่ก่อเอาไว้
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรีและชุดสืบสวนสภ.ปากเกร็ดได้ประชุม เร่งรัดคดีเพื่อเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย