xs
xsm
sm
md
lg

สืบนครบาลรวบเสี่ยกำมะลอ หลอกตีสนิทฉกสินสอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุมหนุ่มวัย 45 ปี อ้างตัวมีฐานะไปหลอกตีสนิทเหยื่อ ก่อนลักทรัพย์ค่าสินสอด

วันนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ต.ธีเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากคู่สามีภรรยาผู้เสียหาย ว่า ถูกเสี่ยแป๋ม ต้อม หรือ หนึ่ง และอีกหลายชื่อ ลักทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ โดยคนร้ายมาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และหวังอยู่กินแบบสามีภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันแต่งงานเหตุ 1 วัน ได้ลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง สร้างความเดือดร้อนให้คู่บ่าวสาว และเป็นที่ต้องการตัวมากเพราะสร้างความเดือนร้อนไปทั่วพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จัดทีมสืบสวนแกะรอย ไล่ล่าคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

โดยเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2บก.สส.บช.น. ทำการจับกุมนายปิยะศักดิ์ อายุ 45 ปี อยู่ ต.คลองบางบอน อ.บางบอน จ.กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1400/2563 ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 โดยจับกุมได้ที่บริเวณ โรงแรมย่าน ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมายจับ ได้แก่ หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่20มีนาคม2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวถึงพฤติการณ์ในคดีว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้ รู้ว่าผู้เสียหายกำลังจะแต่งงาน ได้มีการเตรียมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ จึงได้เข้ามาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และ หวังอยู่กินแบบสามีภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ขอเข้ามาดูห้องของผู้เสียหาย เพราะอ้างว่าจะย้ายมาอยู่กินกับพี่สาวผู้เสียหายที่อพาร์ตเมนต์เดียวกัน ต่อมาในวันที่เกิดเหตุได้เข้ามาขอยืมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ที่มีกุญแจคีย์การ์ดเข้าห้องของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นได้หลบหนีไป ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกประกาศแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์จากหลายช่องทางให้ระมัดระวัง เนื่องจากได้ก่อเหตุในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง

โดยเมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาได้ไปตีสนิทหลอกผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงให้ลงทุนซื้อขายทอง มีการโอนเงิน ไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงินเกือบ 8 ล้านบาท จากนั้นได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว และ จากการตรวจสอบในระบบ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมาย คือ หมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และ หมายจับของศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก ซึ่งได้ประสานงาน และ แจ้งให้อายัดตัวผู้ต้องหารายนี้ สืบนครบาลสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณโรงแรมแห่งหนึ่งย่านถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ขณะกำลังหลอกหญิงสาวอีกราย

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่า ลักทรัพย์สินสอดคู้บ่าวสาวผู้เสียหายมาจริง แต่ได้คืนเป็นบางส่วนแล้ว นำตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น