xs
xsm
sm
md
lg

ตร.พบคราบเขม่าดินปืนที่มือ “อิคคิว” ส่วนกระสุนฝังอยู่ในหัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผบก.น.1 ประชุมชุดสืบสวนติดตามคืบหน้าคดีจีจี้ สุพิชชา” เผยผลพิสูจน์หลักฐานพบคราบเขม่าดินปืนที่มือ “อิคคิว” และกระสุนฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะ

วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ สน.มักกะสัน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เดินทางมาร่วมประชุมกับชุดสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.สุพิชชา หรือ จีจี้ เน็ตไอดอลชื่อดัง และ นตท.ภูมิพัฒน์ หรือ อิคคิว เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับพยานหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ

โดย พล.ต.ต.อัฏธพร เปิดเผยหลังการประชุม ว่า ผลการตรวจสอบพิสูจน์หลักฐานเบื้องต้น พบคราบเขม่าดินปืนอยู่ที่มือของฝ่ายชาย และพบหัวกระสุนฝังอยู่ในกะโหลกศีรษะของฝ่ายชาย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างส่งหัวกระสุนไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นกระสุนจากปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุหรือไม่ และเตรียมเรียกพ่อของฝ่ายชายมาสอบปากคำเพิ่มเติมถึงประเด็นอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งมีชื่อพ่อเป็นเจ้าของ รวมถึงอาวุธปืนคล้ายอาวุธปืนสงครามที่ผู้ก่อเหตุได้โพสต์ในเฟซบุ๊กด้วย

ส่วนพ่อของฝ่ายชายจะมีความผิดตามกฎหมายจากการให้ลูกชายครอบครองและใช้ปืนด้วยหรือไม่นั้น ยังต้องสอบปากคำก่อน แต่โดยทั่วไปกรณีเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี กฎหมายห้ามครอบครองและใช้อาวุธปืน ยกเว้นกรณีที่อยู่ในสนามยิงปืน ดังนั้นตำรวจจะตรวจสอบเรื่องระเบียบข้อปฏิบัติกับกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง

พล.ต.ต.อัฏธพร ยังยืนยันว่า คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดหลายตัว และข้อมูลคีย์การ์ดยืนยันว่า น.ส.สุพิชชา ลงไปรับ นตท.ภูมิพัฒน์ บริเวณชั้น 1 ของที่พัก และขึ้นมาที่ห้องเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยไม่มีท่าทีทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน จนถึงเวลาที่แม่และเพื่อนของ น.ส.สุพิชชา มาพบศพเมื่อเวลา 13.30 น.ของวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา และแจ้งตำรวจก็พบว่า ไม่มีใครเข้าออกห้องดังกล่าว

จากนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงที่เกิดเหตุ ได้สั่งปิดกั้นสถานที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 14 เป็นระยะเวลา 20 นาที โดยในช่วงเวลาดังกล่าวมีเพียงเพื่อนบ้านที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง 2 คนเท่านั้น ที่ออกจากชั้น 14 ส่วนห้องที่เกิดเหตุไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป มีเพียงเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน 5 คน เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ ตามด้วยแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี 3 คน พร้อมพนักงานสอบสวนเข้าไปชันสูตรพลิกศพ

พล.ต.ต.อัฏธพร ระบุอีกว่า ตนเองในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้เข้าไปสังเกตการณ์ด้วย ใช้เวลาเก็บรวบรวมพยานหลักฐานและชันสูตรประมาณ 3 ชั่วโมง จึงให้ครอบครัวเข้าไปดูศพ ก่อนจะบรรจุศพลงถุงซิปล็อกและให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำศพออกไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลรามาธิบดี

ส่วนภายในห้องที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้และตำรวจมีรายชื่อเพื่อนบ้านทั้งหมดแล้ว โดยอยู่ระหว่างประสานมาสอบปากคำ แต่เบื้องต้นสาเหตุที่เพื่อนบ้านอาจไม่ได้ยินเสียงปืนขณะก่อเหตุ เนื่องมาจากห้องที่เกิดเหตุไม่ใช่ห้องสตูดิโอ แต่มีลักษณะเป็นห้องชุดที่มีหลายห้องอยู่ภายใน ประกอบกับผนังค่อนข้างหนา เพราะเป็นคอนโดมิเนียมหรู ทำให้เสียงผ่านออกไปไม่ได้

ทั้งนี้ นอกจากพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงเพื่อนบ้านแล้ว ตำรวจจะเรียกเจ้าของห้องมาให้ปากคำด้วย เนื่องจากพบว่าห้องนี้เป็นเพียงห้องที่ให้ฝ่ายหญิงมาเช่า




กำลังโหลดความคิดเห็น