ผบก.น.1 เผย เตรียมเรียกประชุมชุดทำคดี “จีจี้ สุพิชชา” ช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมยืนยัน “นตท.อิคคิว” เสียชีวิตจริง
จากกรณี ตำรวจ สน.มักกะสัน เข้าตรวจสอบเหตุ น.ส.สุพิชชา หรือ จีจี้ อายุ 19 ปี เน็ตไอดอลชื่อดังเสียชีวิต ร่วมกับ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา หรือ อิคคิว อายุ 19 ปี นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 และเป็นลูกชายของ พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ โดยกระแสสังคมและสื่อออนไลน์ มีการตั้งข้อสงสัยว่า ฝ่ายชายมีการเสียชีวิตจริงหรือไม่นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (21 เม.ย.) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่ได้มีการช่วยเหลือ หรือกระทำการอำพรางเหตุการณ์ใดๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิต ยืนยันว่า ฝ่ายชายเสียชีวิตจริง และมีการตรวจตามขั้นตอน โดยมีพนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชของโรงพยาบาลรามาธิบดี ร่วมชันสูตร
ซึ่งมีการตรวจสอบลักษณะบาดแผลของทั้ง 2 ศพ รวมถึงแนววิถีกระสุนเบื้องต้น ก่อนที่จะให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งนำศพของฝ่ายหญิงออกจากที่เกิดเหตุก่อน และลำเลียงศพของฝ่ายชาย ตามมาเป็นลำดับที่ 2 ซึ่งในขั้นตอนเหล่านี้ มีพ่อแม่ และครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย รับทราบกระบวนการต่างๆ เชื่อว่า หากมีการกระทำการผิดขั้นตอน ก็จะถูกทักท้วงจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่นอน
ขอยืนยันอีกว่า คดีนี้ ตำรวจจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือบุคคลใด โดยในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมชุดสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ เพื่อไล่เรียงข้อมูลต่างๆ อีกครั้ง ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และหลักฐานในที่เกิดเหตุ ทั้งจะให้นำข้อมูลการผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียดของผู้เสียชีวิตทั้งสอง รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์คราบเขม่าดินปืนที่ศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองว่าเป็นไปในลักษณะใด
ส่วนการสอบปากคำพยาน ขณะนี้ได้สอบปากคำครอบครัวฝ่ายหญิงไปในเบื้องต้นแล้ว รวมถึงพยานแวดล้อมอื่นๆ แต่ครอบครัวของฝ่ายชาย ยังไม่สะดวกที่จะเข้าให้ปากคำ โดยขอเลื่อนไปเป็นช่วงหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาให้เสร็จสิ้นก่อน
ส่วนประเด็นที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ให้ดำเนินคดีกับเจ้าของปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้น เรื่องนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการพิจารณา หากพบว่าเป็นความบกพร่องของเจ้าของปืน ก็ต้องเรียกมาสอบปากคำ และดำเนินคดีตามขั้นตอน
พล.ต.ต.อัฏธพร เปิดเผยอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการเรียกประชุมคณะตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน มาไล่เรียงข้อมูลต่างๆ ที่ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้รวบรวมได้ครบถ้วนหมดเรียบร้อยแล้ว โดยเบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีบุคคลที่ 3 เข้าไปหรือออกมาจากห้องเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังให้ไปนำข้อมูล การผ่าชันสูตรศพอย่างละเอียด ของผู้เสียชีวิตทั้งสองคนมาตรวจสอบ และส่วนสุดท้ายคือผลการตรวจพิสูจน์เขม่าดินปืน ที่ศพของผู้เสียชีวิตทั้งสองคนว่า เป็นไปในลักษณะใด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ น่าจะสรุปประเด็น การสืบสวนสอบสวน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการสืบสวน และสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ การสอบปากคำพยาน ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำครอบครัวของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ไปในเบื้องต้นแล้ว รวมถึงพยานแวดล้อมอื่นๆ แต่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตฝ่ายชาย ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่สะดวก ที่จะเข้าให้ปากคำ โดยขอเลื่อนเข้าให้ปากคำ เป็นช่วงหลังจากประกอบพิธีทางศาสนาของลูกชายให้เสร็จสิ้นเสียก่อน