xs
xsm
sm
md
lg

น.1 ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนใหม่ทำคดี “จีจี้ สุพิชชา” ยันทำตามกรอบกฎหมาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผบช.น.เผย ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนชุดใหม่ทำคดีการเสียชีวิตของจีจี้ สุพิชชา” และ “นตท.ภูมิพัฒน์” อยู่ระหว่างรอผลชันสูตรร่วมกับพยานหลักฐานเพื่อความชัดเจน ยืนยันทำคดีตามกรอบกฎหมาย

จากกรณี ตำรวจ สน.มักกะสัน เข้าตรวจสอบเหตุ น.ส.สุพิชชา หรือ จีจี้ อายุ 19 ปี เน็ตไอดอลชื่อดังเสียชีวิต ร่วมกับ นตท.ภูมิพัฒน์ ชัยวณิชยา อายุ 19 ปี นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 2 และเป็นลูกชายของ พล.อ.สมชาย ชัยวณิชยา ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ เบื้องต้นจากรายงานการสืบสวน เจ้าหน้าที่พบว่า สาเหตุดังกล่าวเกิดจากปมหึงหวงนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (20 เม.ย.) พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจพิสูจน์ ทั้งผลชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตจากแพทย์นิติเวช และผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ จาก พฐ. โดยเฉพาะเรื่องคราบเขม่าดินปืน อีกทั้งได้มีการเน้นย้ำไปแล้วว่า ขอให้เร่งรัดในการดำเนินการ เพราะเป็นคดีที่สังคมสนใจ เพื่อให้ได้ความกระจ่างชัด เบื้องต้นในที่เกิดเหตุ พบหัวกระสุนตกอยู่เพียง 1 นัด คาดว่า เป็นกระสุนที่ยิงทะลุศีรษะของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ส่วนหัวกระสุนที่ยิงผู้เสียชีวิตฝ่ายชาย คาดว่า ถูกฝังอยู่ในศีรษะ แต่ต้องรอความชัดเจนจากผลแพทย์อีกครั้ง

ส่วนกรณีอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ สรุปแล้วเป็นของใคร รวมถึงจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่า มีบุคคลที่ 3 เข้าออกห้องช่วงเกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.อัฏธพร ระบุว่า ข้อมูลส่วนนี้อยู่ในสำนวนคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกได้เพียงว่า คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ เป็นคอนโดมิเนียมหรูราคาแพงที่มีความเป็นส่วนตัวสูง และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างดี

ทั้งนี้ เมื่อวานที่ผ่านมา (19 เม.ย.) ญาติของผู้เสียชีวิตฝ่ายหญิง ได้เดินทางมาที่ สน.มักกะสัน และได้เซ็นเอกสารไม่ติดใจสาเหตุการตาย แต่ในกรณีนี้หมายถึงไม่ติดใจสาเหตุทางการตรวจพิสูจน์ว่า เสียชีวิตจากการถูกกระสุนปืนยิง เพื่อที่จะสามารถรับร่างจากโรงพยาบาลไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ แต่จะติดใจสาเหตุของการถูกยิงหรือไม่นั้น เป็นคนละเรื่องกัน เมื่อวานทางญาติก็ได้มีการสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถ้าญาติเชื่อว่ามีบุคคลที่ทำให้จีจี้เสียชีวิต จะสามารถฟ้องร่วมกับอัยการได้หรือไม่ด้วย

พล.ต.ต.อัฏธพร ยังเน้นย้ำอีกว่า คดีนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ลงมาสั่งการด้วยตนเอง ยืนยันได้ว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีเรื่องของอิทธิพลมาเกี่ยวข้อง โดยตำรวจจะทำตามพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พบในที่เกิดเหตุเป็นหลัก ทั้งหัวกระสุน คราบเขม่าดินปืน และกล้องวงจรปิด ส่วนพยานบุคคลนั้น จากการสอบถามเบื้องต้น ยังไม่พบผู้ที่ทราบเหตุการณ์ เนื่องจากห้องที่เกิดเหตุ อยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และเมื่อเปิดห้องเข้าไปก็จะมีห้องโถงก่อน แล้วมีห้องนอนอยู่ชั้นในเข้าไปอีก จุดเกิดเหตุอยู่ภายในห้องนอน อีกทั้งปืนที่ใช้ก่อเหตุ คือ ปืนยี่ห้อ ซิก ซาวเออร์ ซึ่งเป็นปืนที่มีเสียงเบากว่าปกติ เบากว่าประทัด ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนขณะยิง โดยจากการสอบถามนิติบุคคลคอนโดมิเนียม ก็บอกว่าไม่ได้รู้จักลูกบ้าน สามารถให้ข้อมูลได้แค่ไฟล์กล้องวงจรปิดเท่านั้น

ด้าน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า คดีนี้ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนใหม่ เนื่องจากทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ตอนนี้รอผลชันสูตรมารวมกับหลักฐานต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ วิถีกระสุน ทิศทางกระสุน รวมถึงแวดล้อมต่างๆ เบื้องต้นจากการดูทิศทางกระสุน คาดว่าฝ่ายชายน่าจะเป็นคนก่อเหตุ แต่ก็ต้องรอทาง พฐ. สรุปวิถีกระสุนให้ชัดเจนก่อน และมีข้อมูลจากเพื่อนฝ่ายหญิง พบว่าทั้งคู่ได้ไปเที่ยวพัทยากันในช่วงวันสงกรานต์ ก่อนกลับเข้ามายังที่พัก แต่ในส่วนวันที่ 18-19 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น ยังต้องไล่ดูภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งช่วงนั้นฝ่ายหญิงไม่ได้ติดต่อกับเพื่อน จึงไม่แน่ชัดว่าทั้งคู่หรือฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ได้ไปไหนกันอีกหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อน และตอนนี้ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง รวมถึงยังอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนว่ามีตัวละครเพิ่มหรือไม่

ส่วนประเด็นเรื่องปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นพบว่า เป็นของฝ่ายชาย เท่าที่ตรวจสอบน่าจะเป็นของคนในครอบครัวของฝ่ายชาย และเป็นปืนที่ใช้ในอาชีพข้าราชการ ซึ่งฝ่ายชายก็ไม่สามารถครอบครองอาวุธปืนได้อยู่แล้ว เพราะในทางกฎหมายหากผู้ที่ครอบครองปืนได้ในวัยเท่านี้ จะต้องได้รับการรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมายว่า มีคุณสมบัติครบถ้วน ส่วนเจ้าของปืนจะมีความผิดหรือไม่ ต้องดูว่าเข้าเกี่ยวข้องในเรื่องของความประมาทหรือไม่ แต่กฎหมายยังไม่ได้ระบุ พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ทำทุกอย่างในกรอบกฎกติกาของกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น