MGR Online - “อัจฉริยะ” บุกยื่นเรื่อง ก.ยุติธรรม ขอตั้งกรรมการสอบ “อดีตอธิบดีดีเอสไอและพวก” ปิดห้องทำงานบังคับ จนท. ยึดมือถือเช็คข้อมูลส่วนตัวอ้างมีภาพลับ ยันเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
วันนี้ (18 เม.ย.) เวลา 10.00 น. ณ กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางยื่นเรื่องถึง นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ตรวจสอบดำเนินการทางวินัยร้ายแรงกับ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมพวก รวมกว่า 10 ราย กรณีการปิดห้องทำงาน ซึ่งตั้งอยู่ภายในอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ห้ามใครเข้าออกโดยใช้วิธีการบังคับข่มขู่ ปราศจากความยินยอม โดยสมัครใจ ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ตรวจสอบและดูดข้อมูลในโทรศัพท์ของข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ด้วยเครื่องมือพิเศษ มีผู้เสียหาย 14 คน โดยมี นายปริญญ์วัฒน์ เปี่ยมปิ่นวงศ์ หัวหน้าศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม เป็นตัวแทนรับเรื่อง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้มาร้องเรียนปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตามระเบียบของข้าราชการพลเรือน โดยการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 และตามหนังสือสำนักงาน ก.พ.ที่ นร 1011/ว 4 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 เรื่อง การกำชับให้ใช้มาตรการทางการบริหารแก่ข้าราชการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดวินัยร้ายแรง กรณี อดีตอธิบดีดีเอสไอ พร้อมพวก ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยึดโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายทั้ง 14 คน พร้อมให้ลงชื่อยินยอมในการมอบโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบ ช่วงเดือน ก.ย.65 ภายในอาคารดีเอสไอ รวมทั้งใช้อำนาจโดยมิชอบข่มขู่คุกคามผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นการละเมิดกฏหมาย กฏระเบียบราชการ
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า จากกรณีมีภาพของอดีตอธิบดีดีเอสไอกับเจ้าหน้าที่สาวในสังกัดไปเที่ยวต่างประเทศ ต่างจังหวัด และร้านอาหาร ซึ่งมีความสัมพันธ์ในเชิงชู้สาว เพราะจริงแล้วภาพต่างๆ ทางฝ่ายหญิงก็เป็นผู้โพสต์ลงบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัวเอง ต่อมา อดีตอธิบดีดีเอสไอ จึงได้ขู่บังคับเจ้าหน้าที่ที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการปล่อยภาพหลุดดังกล่าว ยึดเอาโทรศัพท์มือถือไปตรวจสอบอย่างไม่เต็มใจ โดยการกระทำดังกล่าว ถือเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และเป็นการใช้อำนาจมิชอบโดยกฏหมาย ซึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นมีทั้งอดีตอธิบดีดีเอสไอ , รองอธิบดีดีเอสไอ , ผู้อำนวยการ และ ระดับเลขานุการกรม รวม 10 กว่าราย
“ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปล่อยภาพหลุดดังกล่าว ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพอย่างร้ายแรง เรื่องดังกล่าวได้ร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญาที่ บก.ปปป. เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66 ซึ่งขณะนี้ได้ส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. พิจารณาชี้มูลแล้ว นอกจากนี้ ได้ไปร้องเรียนต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้ทำการสอบสวนกรณีดังกล่าวไว้แล้ว เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 ซึ่งได้มีการไต่สวนผู้เสียหายไปแล้ว คาดว่าจะมีคำสั่งในเร็วๆ นี้”
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า เนื่องจากบุคคลเหล่านี้เป็นข้าราชการระดับสูงอาจใช้ตำแหน่งหน้าที่เข้ามาแทรกแซงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเข้าไปแทรกแซง กลั่นแกล้ง ข่มขู่ ผู้เสียหาย และพยานได้ อย่างไรก็ตาม ขอให้ปลัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับอดีตอธิบดีดีเอสไอและพวก ภายใน 1 เดือน หากไม่มีความคืบหน้า หรือละเลยเพิกเฉย จะยื่นเรื่องร้องเรียน ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดกับปลัดกระทรวงยุติธรรม ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ด้วย