MGR Online-จบลงด้วยดี พริตตี้สาวโพสต์เมาแล้วขับเข้าด่าน เป่าแอลกอฮอล์แต่ไม่ถูกจับ หิ้วกระเช้าขอโทษตำรวจ รับที่โพสต์อยากให้แฟนคลับเป็นห่วง ไม่คิดเป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่รู้ที่ตัวเองเป่าคือไฟฉาย รอง ผบช.น.เผย ตำรวจไม่เอาผิด เพราะอยากให้มีความสุขวันสงกรานต์ ดูไว้เป็นบทเรียน
วันนี้ (16 เม.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวถึงกรณีมีพริตตี้สาวรายหนึ่งโพสต์ว่า "ขอบคุณพี่ ตร.ที่ตั้งด่านแล้วไม่จับหนู เมาแล้วเป่าจนปรอทจะแตกแต่ก็ปล่อยผ่าน" จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะตำรวจชุดปฏิบัติการงานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร.ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ บนถนนรามอินทรา (ขาเข้า) บริเวณหน้าร้านกรองน้ำ พริตตี้คนดังกล่าวทราบชื่อภายหลัง น.ส.สโรชา (สงวนนามสกุล) หรือเพชรพลอย อายุ 27 ปี ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว ทะเบียน 2ขถ 4576 กรุงเทพฯ เข้ามาที่ด่าน โดยการตรวจวัดแลกอฮอล์มี 3 ขั้นตอน 1. การตรวจคัดกรองเบื้องต้น (สังเกตอาการ กิริยา กลิ่น ท่าทาง และพิรุธต่างๆ) 2. การตรวจวัดโดยเครื่องทดสอบเบื้องต้น (บ่งบอกว่ามีแอลกอฮอล์ในร่างกายหรือไม่) 3. การตรวจวัดโดยเครื่องตรวจวัดยืนยันผล กรณี น.ส.สโรชา อยู่ในขั้นตอนที่ 1 ตำรวจเชื่อว่าไม่มีพฤติกรรมการเมาสุรา จึงไม่ได้ทำการตรวจวัดในขั้นตอนที่ 2 และ 3 จึงอนุญาตให้ผ่านไปไม่มีการพูดจา เจรจา หรือขอร้องแต่อย่างใด
จากการตรวจสอบไม่เป็นความจริงตามที่ น.ส.สโรชา โพสต์ลงเฟซบุ๊ก การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) "ผู้ใดนำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือบิดเบือน อันน่าจะเกิดความเสียหายกับประชาชน" อย่างไรก็ตาม เป็นความผิดอันยอมความได้ผู้เสียหายเป็นตำรวจที่ตั้งด่านตรวจ สังกัด กก.5 บก.จร.ในวันนี้ได้เชิญ น.ส.สโรชา มาสอบปากคำเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและขอโทษตำรวจ กระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายกับตำรวจที่รับผิดชอบ จากการสอบถามตำรวจทั้งหัวหน้าด่านและผู้ปฏิบัติหน้าที่ก็พร้อมให้อภัย น.ส.สโรชา เพราะอยากให้มีความสุขในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ภายใต้นโยบาย ผบ.ตร.และ ผบช.น.ได้ระดมกำลังเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน อยากให้ประชาชนมีความสุขอย่างเต็มที่และมีความปลอดภัย ยืนยันว่าตำรวจปฏิบัติหน้าที่โดยความเสมอภาคไม่มีการยกเว้น ทั้งนี้ ฝากถึงประชาชนการที่จะทำอะไรก็ตามโดยเฉพาะเรื่องโซเขียล ให้คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นในสังคมอยากให้ดูครั้งนี้ไว้เป็นบทเรียน
น.ส.สโรชา กล่าวว่า ทุกครั้งตนจะโพสต์ขอบคุณร้านที่จ้างไปทำงาน ขอบคุณดีเจและคนหางานรวมถึงตำรวจแต่ครั้งนี้ไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ ก่อนหน้านี้เวลาขับรถเข้าด่านลดกระจกลงตำรวจจะส่งเครื่องวัดแอลกอฮอล์มาให้เปา ในวันเกิดเหตุยอมรับว่าดื่มมาแค่จิบๆ แต่ไม่เมา พอขับมาถึงด่านบนถนนรามอินทรา ตำรวจได้ยื่นอุปกรณ์ที่มีแสงไฟให้ประกอบกับไฟส่องเข้าตา ไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นไฟฉายเข้าใจว่าเป็นเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ จึงเป่าไปเต็มแรงเพราะรู้ตัวว่าไม่เมาจากนั้นตำรวจบอกว่า "ขอบคุณครับ" ตนก็ตอบกลับไปว่า "ขอบคุณค่ะ" แล้วขับออกไป ส่วนเจตนาที่โพสต์แบบนั้นเพื่ออยากให้แฟนคลับเป็นห่วงเห็นอกเห็นใจให้กำลังใจ ตนทำงานในวงการนี้อยากให้คนมาสนใจเวลาโพสต์จะมีแฟนคลับติดตามไปทุกร้าน ก่อนหน้านี้โพสต์ลักษณะบั่นทอนจิตใจเหนื่อยขับรถคนเดียวไม่มีคนมาช่วยขับเป็นการอ้อนแฟนคลับ ที่ผ่านมาตนไม่เคยเมาแล้วขับรถถ้ามีงานไกลๆ ส่วนใหญ่จะนั่งรถตู้ไปกับทีมงาน หรือมีเพื่อนอีก 1 คนไปด้วยถ้าขับรถทางไกล.