xs
xsm
sm
md
lg

หิ้วกระเช้าขอโทษ ตร. พริตตี้รับ โพสต์เรียกกระแส เพิ่งรู้เป่าไฟฉาย ตร.ยันตรวจจริงแต่ไม่ได้ให้เป่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGROnline- พริตตี้สาวที่โพสต์ข้อความตรวจแอลกอฮอล์เกินในด่านตรวจ แล้วตำรวจไม่ดำเนินคดี หอบกระเช้าขอโทษตำรวจแล้ว โดยอ้างว่าเป็นการโพสต์เพื่อให้แฟนคลับเห็นใจ ไม่รู้ว่าเป่าไฟฉายไม่ใช่เครื่องวัด-ตำรวจโชว์คลิปผ่านด่านตรวจแค่จุดคัดกรอง ยังไม่ได้เป่า ให้โอกาสไม่ดำเนินคดี

วันนี้ (16 เม.ย.) นางสาวสโรชา หรือ เพชรพลอย พริตตี้ MC ที่โพสต์ข้อความว่าผ่านด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ของกองบังคับการตำรวจจราจร หลังจากไปทำงานในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ช่วงกลางดึกวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ขณะกำลังขับรถกลับที่พักได้ผ่านด่านตรวจโดยที่อ้างว่าเป่าเครื่องตรวจวัดแล้วปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด แต่ตำรวจได่ปล่อยตัวไม่ได้เรียกดำเนินคดี หลังเกิดเหตุทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการปล่อยปละละเลยของตำรวจ และผู้โพสต์

พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบภาพกล้องที่ติดตัวของตำรวจประจำด่าน พบเห็นรถของผู้โพสต์เข้ามาที่ด่านตรวจบนถนนรามอินทรา ได้ชะลอรถยนต์และเปิดกระจกด้านข้างคนขับ ขณะนั้นตำรวจได้พูดว่า “ขออนุญาตครับ” ก่อนจะส่องไฟฉายมาภายในรถยนต์ จากนั้นรถยนต์ก็ขับออกไปใช้เวลาประมาณ 5 วินาที ซึ่งตำรวจมีภาพที่บันทึกระหว่างเกิดเหตุมาแสดงต่อสื่อมวลชน

พลตำรวจตรีจิรสันต์ ยังบอกว่า ตำรวจมีขั้นตอนการตรวจคัดกรองรถยนต์อยู่ 3 ขั้นตอน โดยรถยนต์คันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแรก โดยจะสังเกตจากท่าทาง พิรุธ ของคนขับ ก่อนที่จะตรวจวัดเบื้องต้น หากพบมีแอลกอฮอล์ก็จะเข้าสู่การตรวจวัดในจุดที่ 2 ถึง 3 และยืนยันว่าตำรวจตรวจทุกคนอย่างเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นบุคคลใด มีชื่อเสียงหรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ยังไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ตามที่ผู้โพสต์กล่าวอ้างแต่อย่างใด

ขณะที่สิบตำรวจเอก ชนินท์ เพิ่มสุข ผู้บังคับหมู่งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ กก.5 บก.จร. ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ ระบุว่า ในวันนั้นมีรถยนต์ผ่านด่านตรวจจำนวนมาก และจำไม่ได้ว่ารถของผู้โพสต์เป็นคันไหน ในส่วนของขั้นตอนการสังเกตุผู้ขับขี่หากมีพิรุธจริง หรือเข้าข่ายที่จะต้องตรวจเพิ่มก็จะมีกลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาจากรถ หรือผู้ขับขี่จะมีอาการท่าทางเมาแสดงออกมา แต่หากไม่มีก็จะปล่อยผ่านด่านออกไป

ด้านนางสาวสโรชา ยอมรับว่า ได้ดื่มแอลกอฮอล์ในงานมาเล็กน้อยเท่านั้น และไม่ได้มีอาการเมา และที่โพสต์ไปเพราะเป็นการขอบคุณเจ้าของร้าน และคนที่พาไปทำงาน ซึ่งเป็นปกติที่จะโพสต์หลังเสร็จงานทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มีการโพสต์เกี่ยวกับเรื่องด่านตรวจไปด้วย เพื่อต้องการให้แฟนคลับและผู้ติดตามในเฟสบุ๊กเห็นใจว่าไปทำงานมา โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา

ซึ่งในขณะที่ขับรถผ่านด่านก็มีตำรวจเรียกตรวจจริง มีไฟฉายส่องเข้ามาในรถ โดยที่ไม่แน่ใจว่ามีเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ยื่นมาด้วยหรือไม่ จึงได้เป่าไปแต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกเรียกตรวจและมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนดตามที่โพสต์ไป พร้อมกับขอโทษทุกฝ่ายที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย

ขณะที่ตำรวจได้พิจารณาข้อความที่โพสต์แล้ว ถือว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 นำเข้าข้อความอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่พลตำรวจตรีจิรสันต์ ระบุว่า การกระทำดังกล่าวของผู้โพสต์เมื่อได้เรียกตัวมาสอบถามถึงพฤติการณ์แล้วพบว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ และไม่มีเจตนา พร้อมกับได้เข้ามาขอโทษตำรวจแล้ว ตำรวจในฐานะผู้เสียหายจึงไม่ติดใจดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้

พร้อมกับเตือนประชาชน ในการโพสต์ข้อความผ่านทางออนไลน์ ที่มีผลกระทบถึงบุคคลอื่น ขอให้คำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะตามมา ซึ่งกรณีนี้ถือว่าเป็นบทเรียนที่จะทำให้ผู้อื่นระมัดระวังในการโพสต์ข้อความต่างๆ เป็นอย่างดีขอโทษตำรวจโพสต์ตั้งด่าน

พลตำรวจโทจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังเปิดเผยถึงสถานการณ์ภาพรวมการดูแลความสงบเรียบร้อยช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2566 ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

โดยในด้านการจราจร พบว่า เส้นทางเข้าออกเมือง ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะมีจุดที่ปริมาณการจราจรหนาแน่น บริเวณสถานีขนส่งหมอชิต ช่วงวันที่ 12-13 เมษายน 2566 แต่ยังสามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ ส่วนช่วงวันที่ 13-15 เมษายน 2566 จะพบปัญหาการจราจรในบริเวณจุดที่มีการจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์เป็นหลัก โดยเฉพาะที่ถนนข้าวสาร ซึ่งกระทบการจราจรบนถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ช่วงสะพานปิ่นเกล้าไปจนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่จุดอื่นๆ โดยรอบ การจราจรสามารถเคลื่อนตัวได้ตามปกติ

ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ พบว่า แม้ปีนี้จะมีผู้ที่ออกมาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมากแต่ภาพรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุถือว่าน้อยกว่าปี 2565 ขณะที่สถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจนถึงวันนี้อยู่ที่ 15 ราย ซึ่งเท่ากันกับปี 2565 อย่างไรก็ตาม ยังคงเหลือเวลาอีก 2 วัน หากมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น สถิติก็จะทะลุเกินกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่า สาเหตุของการเสียชีวิตที่พบมากที่สุด คือการขี่รถจักรยานยนต์แล้วเสียหลักล้มเอง เช่น ชนข้างทาง ชนเสาไฟฟ้า ชนแบริเออร์ จึงขอย้ำเตือนให้ประชาชนขับรถอย่างระมัดระวัง ลดความเร็ว สวมหมวกนิรภัย และเมาไม่ขับ

ส่วนการกระทำผิดกฎหมาย ส่วนมากพบที่ถนนข้าวสาร เรื่องของการกระทำอนาจาร ซึ่งได้มีการจับกุมดำเนินคดีไปหลายราย ส่วนการกรีดกระเป๋านักท่องเที่ยวนั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามอยู่ เพราะแก๊งกรีดกระเป๋า เริ่มกลับมาก่อเหตุมากขึ้นตั้งแต่เริ่มเปิดประเทศ












กำลังโหลดความคิดเห็น