xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ตร.พอใจอุบัติเหตุลด เตือนเล่นสงกรานต์ในขอบเขต ห้ามโป๊เปลือย-ทะเลาะวิวาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ผบ.ตร. เผย 3 วันแรกช่วง 7 วันอันตรายสงกรานต์ สถิติอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตน้อยลง เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุหลักจากขับรถเร็ว-เมาแล้วขับ เตือนเล่นสงกรานต์ห้ามเกินขอบเขต หากมีทะเลาะวิวาท อนาจาร หรือโป๊เปลือย ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้(13 เม.ย.)เมื่อเวลา 10.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานประชุมติดตามการดูแลความสงบเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกการจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศ เพื่อรับทราบปัญหาและเร่งหาแนวทางแก้ไข

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวก่อนเข้าประชุม ว่า วันนี้เข้าสู่ช่วง 3 วัน ใน 7 วันอันตราย นับตั้งแต่วันที่ 11-17 เม.ย. พบว่าอุบัติเหตุ  และการเสียชีวิตลดลงกว่าช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเกิดจากขับรถเร็วและเมาแล้วขับ ส่วนยานพาหนะที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตมากที่สุดคือรถจักรยานยนต์ นอกจากนี้พื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ กรุงเทพมหานคร จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดลำปาง ทั้งนี้ ได้มีการเตรียมการเพื่อลดอุบัติเหตุโดยการตั้งกองอำนวยการร่วมกับเครือข่ายภาคีฝ่ายปกครอง อาสาสมัครในพื้นที่ ในการตั้งด่านในเส้นทางต่างๆ 

ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนเรื่องการจัดงานเชื่อว่าในปีนี้จะมีการจัดงานสงกรานต์ขนาดใหญ่ขึ้นทั่วประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยว่างเว้นกับการจัดงานสงกรานต์มาหลายปี ทำให้เชื่อว่าปีนี้จะมีพี่น้องประชาชนไปร่วมงานสงกรานต์เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากพบว่าการเล่นสงกรานต์ในปีนี้เกินขอบเขต หากมีการทะเลาะวิวาท กระทำอนาจาร หรือโป๊เปลือย ก็ต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ส่วนเรื่องการจับกุม ตำรวจจะเน้นไปในเรื่องการจับกุม 10 ข้อหาหลัก อย่างไรก็ตาม ยังเหลือเวลาอีก 5 วันที่เจ้าหน้าที่จะต้องมีการปรับแผนรับมือเพื่อลดอุบัติเหตุ และเหตุการณ์ต่างๆ หลังจากนี้


ด้าน พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2566 เปิดเผยสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ข้อมูลและสถิติอุบัติเหตุใหญ่ การบังคับใช้กฎหมาย 10 ข้อหาหลัก โดยสถิติสะสมในห้วง 2 วัน ควบคุมเข้มข้น ระหว่างวันที่ 11 - 12 เม.ย.66 มีการเกิดอุบัติเหตุ 618 ครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของสงกรานต์ปี 65 จำนวน 75 ครั้ง (+13.81%) โดยลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี 107 ครั้ง (-14.76%) สถิติผู้เสียชีวิต 63 ราย ลดลงกว่าช่วงเดียวกันของสงกรานต์ปี 65 จำนวน 13 ราย (-17.11%) และลดลงกว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี 26 ราย (-29.21%) สถิติผู้บาดเจ็บ 618 คน เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของสงกรานต์ปี 65 จำนวน 84 ราย (+15.73%) โดยลดลง กว่าค่าเฉลี่ยสะสม 3 ปี จำนวน 112 คน (- 15.34%) จำนวนอุบัติเหตุสะสมสูงสุดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ 25 ครั้ง เสียชีวิตสูงสุด ในพื้นที่ กทม. 7 ราย บาดเจ็บสูงสุดในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ 27 ราย โดยมีสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ร้อยละ 38.51 และมีพฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บสูงสุดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 57.71 โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นในถนนทางหลวงมากที่สุด ร้อยละ 41.59

สำหรับยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.75 ซี่งช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือช่วง 19.00 - 20.00 น. โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้บังคับใช้กฎหมายจราจร 10 ข้อหาหลัก รวม 143,436 ราย ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 54,135 ราย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ 31,913 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 28,093 ราย ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด 54,135 ราย เมาแล้วขับ 5,858 ราย ตามลำดับ

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศปฏิบัติตามแนวทางข้อสั่งการของ ผบ.ตร. โดยเคร่งครัดและขอชมเชยการปฏิบัติงานของทุกหน่วยในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในห้วง 2 วันของช่วง 7 วัน ควบคุมเข้มข้น แม้ว่าสถิติ การเกิดอุบัติเหตุและผู้บาดเจ็บ จะเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่สถิติเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ยังอยู่ในเกณฑ์ค่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับสถิติเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (พ.ศ.2563-2565) ดังนั้น จังหวัดใดที่มีแนวโน้มสถิติที่สูง ให้ปรับแผนการปฏิบัติเพิ่มเติมให้สอดรับกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ตามความเหมาะสม เพื่อให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ลดลงตามเกณฑ์ที่กำหนด การตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรและการตั้งจุดตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน SOP ที่ ตร. กำหนด ทั้งด้านวัสดุ อุปกรณ์ กล้อง CCTV ป้ายข้อความ การแต่งกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสาสมัครจราจร มีการจัดเก็บอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และให้เน้นกวดขันพฤติกรรมเสี่ยงที่ส่งผลต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิต เช่น ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย ขับรถในขณะเมาสุรา และขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด
กำลังโหลดความคิดเห็น