นายทหารพระธรรมนูญคุมตัว "จ.ส.ท.เขมรัตน์" แฮกเกอร์ฉายา "9Near" ล้วงข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายการประกาศขายทางเว็บไซต์ มอบตัวกับตำรวจ บช.สอท.แล้ว นำตัวสอบปากคำ พร้อมสอบสวนภรรยาแยกต่างหาก ถ้าพบร่วมกระทำความผิดต้องถูกดำเนินคดี นำตัวขึ้นศาลพลเรือนทั้งคู่
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า จ.ส.ท.เขมรัตน์ บุญช่วย ทหารสังกัดกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ผู้ต้องหาตามหมายจับตามความผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นแฮกเกอร์ใช้ชื่อบัญชี "9near" โพสต์ขายข้อมูลคนไทย 55 ล้านรายการ จากหน่วยงานรัฐไปเผยแพร่ผ่านบนเว็บไซต์ จะเข้ามอบตัวกับตำรวจไซเบอร์ในวันนี้
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (12 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.30 น. นายทหารพระธรรมนูญ เดินทางมายัง บช.สอท. เพื่อเข้าหารือขั้นตอนการมอบตัว จ.ส.ท.เขมรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาฐานกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กับพนักงานสอบสวน บช.สอท. เพื่อเตรียมนำตัว จ.ส.ท.เขมรัฐเข้ามอบตัว และเข้ารับการสอบปากคำ ซึ่ง จ.ส.ท.เขมรัฐยังไม่ให้ข้อมูลแต่อย่างใด
ต่อมานายทหารพระธรรมนูญนำตัว จ.ส.ท.เขมรัตน์ มาพบ พนักงานสอบสวน หลังจากที่ ภรรยาจ.ส.ท.เขมรัตน์ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ที่ บช.สอท.ตั้งแต่ช่วงเช้า
มีรายงานว่าทั้ง 2 ถูกแยกสอบปากคำอยู่คนละห้องสอบสวน ทั้งนี้เพื่อให้ได้ความกระจ่างในเรื่องของข้อเท็จจริง และความเชื่อมโยงทั้งหมด โดยมีทาง พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกรประภายนต์ ผบก.สอท.2 เป็นผู้สอบปากคำ
ด้านนายทหารพระธรรมนูญ ยอมรับว่า ขณะนี้ จ.ส.ท.เขมรัตน์อยู่ในการควบคุมของทหารแล้ว ส่วนรายละเอียดขอให้ทางโฆษกกองทัพบกเป็นผู้ชี้แจง ส่วนภรรยาของ จ.ส.ท.รายดังกล่าว ที่ถูกออกหมายเรียกก่อนหน้านี้นั้น ยังไม่ทราบรายละเอียดเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ในขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน หากพบว่าภรรยาของจ่าสิบโทเขมรัตน์ ซึ่งเป็นพยาบาล มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมกระทำความผิดด้วย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันกระทำความผิด และทั้งหมดจะต้องไปขึ้นศาลพลเรือน เพราะมีประชาชนเข้าร่วมกระทำความผิด
จากการสืบสวน ยังพบว่า จ่าสิบโทเขมรัตน์มีความรู้และเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่างมาก จากการตรวจค้นห้องพักพบมีเครื่องมือและอุปกรณ์ในการแฮ็กข้อมูลสำคัญหลายรายการ ซึ่งตำรวจตรวจยึดไว้แล้ว และยังพบเครื่องมือกระทำความผิดหลายพื้นที่ โดยมีการลงทุนซื้อเครื่องมือจำนวนมาก


