ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม "ตั้มฟองเบียร์" ล่อลวงเด็กสาววัย 11 ปี ขอมีเพศสัมพันธ์ พร้อมกับถ่ายคลิปโป๊เก็บไว้
วันนี้ (12 เม.ย.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายศรัณย์ จันทศรี หรื ตั้มฟองเบียร์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ จ.228/2566 ลงวันที่ 27 มี.ค. 66 ข้อหา ปราศจากเหตุอันสมควรพรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบหาปีไปเสียจากบิดามารดา โดยชุดจับกุมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่ ริมถนนในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน จังหวัดกรุงเทพ
พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาลได้รับแจ้งจากผู้เสียหายรายหนึ่งผ่านเฟซบุ๊กเพจ สืบสวนนครบาล IDMB โดยผู้เสียหายได้แจ้งว่า บุตรสาววัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 ได้ถูกคนร้ายพาตัวหนีออกไปจากบ้านกว่า 11 วัน และมีการกระทำชำเราจำนวนหลายครั้ง ซึ่งตนได้แจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ซึ่งปัจจุบันได้มีการออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้ว แต่ยังลอยนวลเกรงว่าลูกสาวจะไม่ปลอดภัย แล้วอาจจะมีการถ่ายคลิปโป๊เก็บไว้
จากตรวจสอบทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายศรัณย์ โดยผู้เสียหายได้ขอความช่วยเหลือให้ช่วยติดตามจับกุมตัวโดยเร็วเพราะครอบครัวของผู้เสียหายไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ ต้องอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวว่าคนร้ายจะมาพาตัวบุตรสาวไปอีก
หลังรับแจ้งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมได้ตรวจสอบประวัติของนายศรัณย์ พบประวัติเคยต้องโทษกว่า 4 คดี 1. พ.ศ. 2553 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล 2. พ.ศ. 2555 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา ใช้สารระเหย 3. พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง และ 4. พ.ศ. 2558 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย หลังรับแจ้งและวิเคราะห์ข้อมูล
โดยพล.ต.ต.ธีรเดช ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดบก.สส.บช.น. ลงพื้นที่โดยเริ่มจากการเข้าไปพบปะพูดคุยกับครอบครัวของเหยื่อ จนได้ทราบข้อมูลว่าหลังจากที่ครอบครัวของเหยื่อได้พากันไปแจ้งความ นายศรัณย์ได้หลบหนีไปไม่สามารถติดตามตัวได้ จากนั้นตำรวจได้ใช้แผนนางนกต่อ ติดต่อไปหานายศรัณย์ฯ จนกระทั่งสามารถตกลงนัดหมายได้
กระทั่งเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 18.40 น. เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายศรัณย์ ได้เดินทางมายังจุดนัดหมายซึ่งเป็นบริเวณที่มีเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่แล้ว พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายศรัณย์ ตามหมายจับ โดยจับกุมได้ ขณะกำลังนั่งรอเด็กนกต่ออยู่ริมถนน ในซอยเอกชัย 64/5 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ
โดยในชั้นจับกุม นายศรัณย์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเหยื่ออายุ 11 ปี กระทั่งได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา บนรถที่ตนเองใช้ทำงาน และหลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์กันอีกหลายครั้ง กระทั่งทางบ้านของเหยื่อจับได้และมาติดตาม ตนจึงพาเหยื่อ 11 ปี รายนี้หลบหนีไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลากว่า 11 วัน
และสุดท้ายเหยื่อก็ขอกลับบ้าน ตนเองก็ได้ปล่อยไป และยังยอมรับอีกว่านอกจากเหยื่อรายนี้ยังมี เด็กหญิงวัย 15 ปี อีกคนหนึ่ง ซึ่งตนเองคบหากันเป็นแฟนและเคยมีเพศสัมพันธ์ด้วยกันมาแล้ว โดยตั้งใจจะคบเป็นภรรยาทั้ง 2 คน และในอดีตตนเองเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาพรากผู้เยาว์ ซึ่งตอนนั้นตนเองได้มีความสัมพันธ์กับเด็กหญิงอายุ 14 ปี ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบว่าตนเองชอบเด็กเพราะอะไร และยอมรับว่าได้เคยถ่ายคลิประหว่างการมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อรายอายุ 15 ปีไว้ในโทรศัพท์แต่ไม่ได้เอาไปเผยแพร่ที่ไหน
ซึ่งต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผลการจับกุมจนพบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของ นายศรัณย์ คือ คลิปโป๊ ซึ่งเป็นการบันทึกภาพระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับเหยื่อจริง และยังมีภาพลักษณะวาบหวิวของเหยื่ออีกด้วย จึงได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่า ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฏหมาย
อย่างไรก็ตามยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา ผู้ต้องหารายนี้และถือเป็นภัยสังคม เพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหาเป็นการทำลายอนาคตเด็กไปทั้งชีวิต และจากรสนิยมของผู้ต้องหารายนี้ ที่มักมีความสัมพันธ์ลึกซึ่งกับเหยื่อซึ่งเป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และยังมีการบันทึกคลิปไว้ขณะมีเพศสัมพันธ์ ลักษณะใคร่เด็ก และน่าเชื่อว่าอาจมีเหยื่อมากกว่านี้ จากการตรวจสอบผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
นอกจากนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบ บุตร หลาน ของท่าน หากเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งได้ทางช่องทาง เฟสบุ๊คเพจ สืบสวนนครบาล IDMB ซึ่งเรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.