“กัน จอมพลัง” พาแม่และเด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้าพบ รอง ผบ.ตร.หลังถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมทำร้ายและจับแก้ผ้าถ่ายคลิปประจาน ก่อนปล่อยให้เดินกลับบ้าน 9 กม.
วันนี้ (11 เม.ย.) ที่สโมสรตำรวจ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาเด็กหญิงอายุ 12 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี เข้ามาพบ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังถูกรุ่นพี่อายุ 17-18 ปี รวม 7 คน รุมทำร้ายเตะจนน่วม และจับน้องแก้ผ้าถ่ายคลิปแล้วลงประจานในกลุ่มเพื่อน
โดยแม่ของเด็ก เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ลูกสาวตนมีเรื่องกับกลุ่มเด็กที่ก่อเหตุมี 3 ครั้ง ครั้งแรก คือ ช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวอาศัยอยู่กับยายที่บ้านใน อ.ประจันตคาม ส่วนเธออาศัยอยู่ในเมืองปราจีนบุรี ตอนนั้นน้องทักมาหาเธอว่า “จะโดนตบ” เลยถามว่า “ลูกอยู่ที่ไหน” ก่อนจะรีบไปหาแถววัดโนนสะอาด ใน อ.ประจันตคาม ทันที โดยเมื่อไปถึงก็เจอกลุ่มเด็กผู้ก่อเหตุ เป็นชาย 3-4 คน และผู้หญิง 3 คน จากนั้นเธอจึงได้สอบถามกับกลุ่มที่ก่อเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นปรากฏว่าอีกฝ่ายบอกว่าลูกสาวตนมายุ่งกับแฟน ซึ่งเป็นผู้ชาย 1 ใน 3-4 คนดังกล่าว แต่พอสอบถามย้ำทั้งลูกสาว และฝ่ายชาย เขาก็ยืนยันว่า ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน ก่อนจะจบและแยกย้ายกันไป และให้ต่างคนต่างเลิกยุ่งกัน
กระทั่งหลังจากนั้นผ่านไป 3 วัน ลูกสาวได้ทักมาหาตนอีกครั้งว่า “โดนตบ” และมีบาดแผลเล็กน้อย ตอนนั้นเธอนึกว่าทะเลาะกันธรรมดา ไม่คิดว่ามีอะไร แต่ล่าสุดคือ วันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวตนถูกทำร้ายอย่างหนักอีกครั้ง โดยเรื่องเกิดจากหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุทักมาหาลูกสาวตนพร้อม ชวนออกไปข้างนอก ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ก่อเหตุ ก็เคยเป็นเพื่อนไปที่สนิทกัน ทักให้ไปหาที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่บ้านสัปปโคน อ.ประจันตคาม ก่อนจะถูกทำร้ายตามคลิป
หลังเกิดเรื่องลูกตนได้มาเล่าให้ฟังว่า กลุ่มที่ก่อเหตุครั้งนี้ มีผู้หญิง 4 คน ชาย 3 คน รุมทำร้ายกระทืบตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึงตี 2 พร้อมทั้งยังบังคับให้แก้ผ้า เพราะถ้าไม่แก้ผ้าจะไม่ยอมปล่อยตัว แถมเอาไปประจานในกลุ่มเพื่อน ทำให้ได้รับความอับอาย ก่อนจะปล่อยลูกสาวตนออกมาในช่วงหลังตี 2 โดยให้เดินกลับบ้านเพียงลำพังจากบ้านสัปปโคนไปยังบ้านเมืองใหม่ ในอำเภอเดียวกัน ระยะทางราว 8-9 กิโลเมตร
แม่ของเด็ก เปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ ตนไม่คิดจะเอาเรื่อง เพราะคิดว่าเป็นเรื่องตบตีธรรมดา แต่พอมาเห็นคลิปล่าสุดและสภาพลูกหลังถูกทำร้าย ยอมรับว่าทำใจไม่ได้ สงสารลูกมาก เพราะลูกอยู่ในสภาพที่ตาปิด หน้าบวม เส้นเลือดในตาแตก ก็เลยพยายามที่จะหาหลักฐาน จนกระทั่งมาเจอคลิป แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่กล้าดู เพราะรับไม่ได้ ได้แต่คิดอยู่ในใจว่าทำไมถึงทำกับเด็กได้ขนาดนี้ ทั้งการบังคับให้แก้ผ้า ไม่ให้กลับบ้าน และยึดโทรศัพท์ของน้องไป ซึ่งตอนนี้โทรศัพท์ก็ยังอยู่กับผู้ก่อเหตุ
นอกจากนี้ หลังจากเกิดเรื่องมี 2 คนที่อยู่ในกลุ่มที่ก่อเหตุได้ทักข้อความมาหาเธอ พร้อมยอมรับสารภาพทั้งหมดและขอโทษ แต่อีก 2 คน ยังไม่ได้ติดต่อมา มีเพียงผู้ปกครองคนหนึ่งที่ทักมา พูดในทำนองว่า จะซื้อกระเช้ามาให้และขอให้จบเรื่อง รวมถึงยังได้ยินว่าบางคนก็ท้าทายว่า ให้ไปหาหลักฐานมาสิ โดยเธอยืนยันว่า ไม่อยากได้ เพราะอยากได้ความเป็นธรรมมากกว่า พร้อมอยากถามอีกฝ่ายด้วย ว่า จิตใจทำด้วยอะไรทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ ส่วนสภาพจิตใจของน้องตอนนี้ จากเดิมที่ชอบออกไปเที่ยว แต่ปรากฏว่า ตอนนี้เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง เพราะอายและกลัวว่าอีกฝ่ายจะย้อนกลับมาทำร้าย
ด้าน นายกัณฐัศว์ ระบุว่า เหตุการณ์นี้อุกอาจ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุได้หลอกล่อให้น้องผู้เสียหายออกไปจากบ้าน พร้อมอ้างว่าจะเติมน้ำมัน แต่สุดท้ายถูกรุมทำร้ายจนเละ แถมหลังเกิดเรื่องน้องยังต้องเดินกลับบ้าน ไม่กล้าเดินบนถนน ต้องเดินหลบเข้าไปในป่าจนถึงบ้าน พร้อมทั้งยังมีข้อมูลว่าผู้ใหญ่กลุ่มผู้ก่อเหตุได้จ่ายเงินและรู้จักตำรวจผู้หลักผู้ใหญ่เยอะจึงมาขอความเมตตากับ รอง ผบ.ตร.ในวันนี้
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะเรียก ผู้กำกับ สภ.ประจันตคามเข้ามา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีทางกฎหมาย ส่วนรายละเอียดต้องคุยกับผู้เสียหายอีกครั้ง พร้อมฝากไปถึง ผู้กำกับการ ทุกที่ ให้แก้ไขเรื่องลักษณะนี้ และให้ทุกอย่างจบที่โรงพัก จะได้ทำให้ชาวบ้านอุ่นใจ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ทีมบ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานครของกรมกิจการเด็กและเยาวชนของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้มาพูดคุยเรื่อง การดูแล-ฟื้นฟูสภาพจิตใจและความปลอดภัยของเด็กด้วยพร้อมทั้งได้สอบถามข้อเท็จจริง และหลังจากนี้จะส่งต่อข้อมูลให้กับบ้านพักเด็กจังหวัดปราจีนบุรีต่อ เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพได้เข้าไปฟื้นฟูเยียว และประสานตำรวจในพื้นที่ด้วย
