หนุ่มใหญ่หึงแฟนสาวแอบมีกิ๊ก คว้าท่อนเหล็กทุบหัวดับ ก่อนผูกคอตายตาม

หนุ่มรับเหมาวัย 55 ปี จับได้แฟนสาวแอบมีกิ๊ก ใช่ท่อนเหล็กทุบหัวเสียชีวิต เขียนจดหมายสั่งเสีย ก่อนผูกคอตัวเองตายตาม

วันนี้ (9 เม.ย.) ร.ต.อ.ใจเพชร โฮมวงศ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.หลักสอง รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเช่า ซอยหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว แบ่งเป็นห้องให้เช่าราว 8 ห้อง จากการตรวจสอบบริเวณห้องเกิดเหตุพบมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาคละคลุ้ง ผู้ดูแลบ้านเช่า จึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู พบเครื่องปรับอากาศเปิดทำงานอยู่ บนพื้นห้อง ซึ่งเป็นโถงที่นอน พบศพ น.ส.แตน (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 51 ปี ในสภาพศพนอนหงายเปลือยกาย มีผ้าห่ม สีขาวลายดอก คลุมทับร่างอยู่ 1 ชั้น มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะและท้ายทอย จนกระโหลกยุบ รวม 2 แผล เจ้าหน้าที่สันนิษฐาน เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์

ภายในห้องน้ำ พบศพ นายจิ้ม (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 55 ปี ใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกคอตัวเองกับขื่อห้องน้ำ สภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้า นุ่งกางเกงสแล็คสีดำ ศพบวมอืด จนดำไปแล้วทั้งร่าง สันนิษฐานผูกคอตัวเองเสียชีวิต ในเวลาไล่เลี่ยกัน

จากการตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือคอนทรัพย์สินแต่อย่างใด พบเพียงท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 อัน และจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือฝ่ายชาย ระบุว่า "ผมจับได้ว่าแตนมีกิ๊ก 2-3 ครั้ง โทรคุยกันว่าสงกรานต์จะหนีไปอยู่ด้วยกัน ทั้งที่ผมดูแลเป็นอย่างดี แตนบอกว่าทองที่คอที่ข้อมือหายไป หลอกเอาเงินทองผมไปให้ผู้ชายคนนั้น ผมบอกว่าให้เลิกนะแต่ก็ไม่เลิก จึงตัดสินใจฆ่า เพราะว่าผมรักมากครับ ผมจึงตายตามแตนไปด้วย" เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากสอบสวนชาวบ้านในละแวก ดังกล่าว ทราบข้อมูลว่า ทั้งคู่มาเช่าห้องพักที่นี่พักด้วยกันนานแล้ว โดยฝ่ายชายเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ส่วนฝ่ายหญิงเป็นสาวโรงงานทำขนม เบื้องต้นทั้งคู่ต่างเป็นหม้ายมีลูกติดด้วยกันมาแล้ว และพยายามจะสร้างครอบครัวใหม่ กระทั่งฝ่ายชายจับได้ว่าฝ่ายหญิงไม่ได้คบกับตนเองแค่คนเดียว จึงทำให้มีเรื่องระหองระแหงกันมาสักระยะ ก่อนพบว่าฝ่ายชายใช้ท่อนเหล็กทุบตีฝ่ายหญิงเสียชีวิต และผูกคอตายตามในที่สุด

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ส่งร่างผู้ตายทั้งสองให้แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช ดำเนินการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติทั้งสองฝ่ายมารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป