ตำรวจจับกุมสาวหล่อ แฟนนางเอกชื่อดังระดับตำนาน หลอกแฟนคลับร่วมลงทุนหุ้นสิงคโปร์ สูญเงินไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 เจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุม นางสาวพาฬ นลินวัชร์ อายุ 34 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับกว่า 4 หมายจับ อาทิ หมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ จ.126/2565 ลงวันที่ 25 พ.ค. 65 ข้อหา ฉ้อโกง หมายจับศาลจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ จ.127/2565 ลงวันที่ 25 พ.ค. 65 ข้อหา ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ จ.126/2565 ลงวันที่ 25 ก.พ. 65 ข้อหา ฉ้อโกง และหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.128/2565 ลงวันที่ 26 ก.พ. 65 ข้อหา ฉ้อโกง สามารถจับกุมได้ที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายปี พ.ศ. 2563 ถึงห้วงกลางปี พ.ศ. 2564 เกิดเรื่องฉาวในแวดวงบันเทิง เมื่อมีการหลอกลวงครั้งใหญ่เกิดขึ้น ก่อนผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนว่าถูก “สาว” ซึ่งอ้างว่าเป็นอดีตแฟน กับดารานางเอก “ระดับตำนาน” หลอกลวงเงิน โดยแผนประทุษกรรมการหลอกลวงเรียกได้ว่าสุดแสบ โดยสาวรายนี้จะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มแฟนคลับของดาราสาวแล้วทำทีตีสนิท โดยจะโชว์พาวให้กับกลุ่มแฟนคลับว่าเป็นแฟนกับดาราสาว
โดยเริ่มแรกนั้นเหยื่อต่างยังไม่เชื่อ ซึ่งผู้เสียหายรายหนึ่ง กล่าวว่า สาวรายนี้ใช้จิตวิทยาด้วยการเปิดภาพ ที่ถ่ายคู่กับดาราสาว นอกจากนั้น บางรายสาวหล่อเปิดเทปบันทึกเสียงการสนทนาของสาวรายนี้ กับดาราสาวให้ฟัง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่ออย่างสนิทใจว่าสาวรายนี้เป็นแฟนของดาราสาวจริงๆ หลังเหยื่อเริ่มหลงกลจิตวิทยาของสาวหล่อแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกลวง เบื้องต้นพบว่า มีผู้ตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ความเสียหายรวมไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสืบสวนสอบสวนสาวรายนี้จะหลอกลวงให้เหยื่อลงทุนเล่นหุ้นประเทศสิงคโปร์ โดยจะใช้จิตวิทยาหว่านล้อมว่าตนเองเล่นให้กับดาราสาว จากเงิน 40 ล้านบาท สามารถเพิ่มมูลค่าเป็น 100 ล้านบาท เหยื่อต่างหลงเชื่อ นำเงินมาร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก อันเกิดจากการถูกสาวรายนี้ใช้จิตวิทยาเล่นกับจิตใจของเหล่าผู้เสียหายที่ลุ่มหลงในตัวดาราสาว ซึ่งแท้จริงไม่ได้มีการนำเงินไปลงทุนหุ้นแต่อย่างใด โดยช่วงแรกนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวนางสาวพาฬมาดำเนินคดี เพื่อเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนต่อมาห้วงเดือน ต.ค. 64 หายตัวไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทยอยออกหมายจับสาวหล่อรายนี้ โดยล่าสุด มีหมายจับที่ยัง ACTIVE อยู่ในระบบกว่า 4 หมายจับ ซึ่งผู้เสียหายบางรายตั้งข้อสังเกตว่า ตัวดารานางเอกเองอาจมีเอี่ยวกับนางสาวพาฬ เนื่องจากดาราสาวมีการส่งทนายมาช่วยเหลือในชั้นการรับทราบข้อกล่าวหา อีกทั้งหลังจากที่นางสาวพาฬหลอกลวงเหล่าแฟนคลับไปแล้ว ดารานางเอกรายนี้มีการซื้อรถลัมบอร์กินี จึงเป็นที่คลาบแคลงใจของเหล่าผู้เสียหายเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งข้อมูลที่เหล่าผู้เสียหายสืบทราบนั้นเข้าใจกันว่า นางสาวพาฬ หลบหนีไปกบดานในพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ล่าสุด ทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ นำแฟ้มคดีซึ่งถูกแจ้งในท้องที่ต่างๆ มาเพื่อแกะรอยหาเบาะแสจนกระทั่ง ชุดทำงานของชุด PCT5 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบร่องรอยจุดอ่อน ซึ่งคือแม่แท้ๆ ซึ่งใช้ชีวิตอย่างหลบๆ ซ่อนๆ ในพื้นที่ จ.อุดรธานี ต่อมา จึงส่งเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี พบกับแม่ เมื่อตรวจสอบพบว่าปัจจุบันนางสาวพาฬ หลบหนีไปกบดานอยู่ที่เมืองพนมเปญ ประเทศกัมพูชา กว่าแรมปีมาแล้ว
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ชุดปฏิบัติการจึงเดินทางไปประเทศกัมพูชา จนพบกับนางสาวพาฬ อยู่ใจกลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยแม่ของนางสาวพาฬ เกลี้ยกล่อมให้เดินทางกลับมายังประเทศไทย กับเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย โดยการจับกุม นางสาวพาฬ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นแฟนกับดารานางเอกจริง โดยรู้จักกันมาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี แล้ว และหลอกลวงเงินจากผู้เสียหายมาจริงๆ แต่ไม่ได้หลอกเยอะอย่างที่ผู้เสียหายได้แจ้งความ และที่ผู้เสียหายไปออกรายการ แล้วกล่าวอ้างว่าตนเปิดภาพลับของดารานางเอกนั้นไม่เป็นความจริง ส่วนเรื่องที่นางเอกสาวมีเอี่ยวหรือไม่นั้น ตนเองไม่ขอพูด ไม่อยากให้ดารานางเอกสาวเสียชื่อเสียง
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผลที่ บก.สส.บช.น. เพื่อติดตามเส้นทางทรัพย์สินที่ได้จากผู้เสียหายไป โดยมี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เดินทางมาร่วมสอบปากคำด้วยตัวเอง ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป