“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 4 เมษายน 2566 ตอน สิ้น “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” สมรภูมิการเมืองปากน้ำ พลังประชารัฐ-มุ้งม้าทองคำยวบ
ถือเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวอัศวเหม ภายหลังการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ เอ๋ ชนมสวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ และแกนนำกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า เมื่อกลางดึกวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
และถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของสนามการเมือง จ.สมุทรปราการ เพราะ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ คือ นักการเมืองที่มากบารมีที่สุดในจังหวัดยุคนี้
รวมถึงเป็นความเสียหายทางการเมืองของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เนื่องจาก จ.สมุทรปราการ ถือเป็นจังหวัดความหวังที่พรรคพลังประชารัฐ ต้องการจะกวาดเก้าอี้ ส.ส.แบบแบ่งเขต แบบยกจังหวัด หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สามารถพา ส.ส.เข้าสภาได้ถึง 6 ที่นั่ง จากทั้งหมด 7 ที่นั่ง
โดยการเลือกตั้ง ส.ส. จ.สมุทรปราการ เมื่อปี 2562 นั้น เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ได้รับการชักชวนจากคนใกล้ชิดของ บิ๊กป้อม ให้ยกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้ามาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ
เดิมที เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ได้วางตัวคนของตัวเองเอาไว้ทั้งหมดใน 7 เขต ได้แก่ อัควัฒน์ อัศวเหม ในเขต 1 ยงยุทธ สุวรรณบุตร เขต 2 ภริม พูลเจริญ ในเขต 3 จาตุรนต์ นกขมิ้น ในเขต 4 กรุง ศรีวิไล สุทินเผือก ในเขต 5 ฐาปกรณ์ กุลเจริญ ในเขต 6 และต่อศักดิ์ อัศวเหม ในเขต 7
แต่ปรากฏว่า เสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น ได้ผนึกกับ วิรัช รัตนเศรษฐ และ เสธ.อ้น พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชา นายทหารน้องรักของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันดัน ไพลิน เทียนสุวรรณ ซึ่งเป็นคนสนิทของ เสธ.อ้น มาเบียด ต่อศักดิ์ ในเขต 7 จนท้ายที่สุด ต่อศักดิ์ ต้องไปลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อแทน
ผลปรากฏว่า กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าภายใต้การนำของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ได้ ส.ส.ถึง 5 คน ได้แก่ อัครวัฒน์ ยงยุทธ ภริม กรุงศรีวิไล และฐาปกรณ์ ขณะที่ จาตุรนต์ ในเขต 4 พ่ายแพ้ให้กับผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลแบบเฉียดฉิวหลักร้อย
ขณะที่ ไพลิน ซึ่งเป็นคนนอกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ชนะคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทยแบบหืดขึ้นคอในหลักร้อย
ในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าเติบโตในพื้นที่มากขึ้น ไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นระดับไหน สามารถนำคนของตัวเองเข้าวินได้ทั้งหมด ตั้งแต่นายก อบจ.สมุทรปราการ ที่ผลักดัน ตู่ นันทิดา แก้วบัวสาย ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย ตลอดจนทีมสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมือง ที่พาหลานรัก พิม อัศวเหม เข้าป้ายได้สำเร็จ
เช่นเดียวกับนายกเทศมนตรีสมุทรปราการ ที่พาพี่สะใภ้ ประภาพร อัศวเหม กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ชนะคู่แข่งแบบสบายมือ
ถือเป็นยุครุ่งเรืองอีกครั้งของบ้านใหญ่ม้าทองคำ ที่ซบเซาไปพักใหญ่ๆ ร่วมสิบปี นับตั้งแต่ วัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย บิดาของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ต้องคดีคลองด่าน
มาในการเลือกตั้งปี 2566 บิ๊กป้อม พยายามเหนี่ยวรั้งกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ให้ยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อ หลังทราบว่า เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ลูกชายคบหากับลูกสาวของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ คือ น้องเพลง ชนม์ทิดา อัศวเหม ชักชวนไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย
ชั่วโมงนั้นกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า มีใจให้กับพรรคภูมิใจไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะภาพ เสี่ยหนู นั่งรับประทานอาหารกับ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์
แต่เหมือนรูปดังกล่าวจากสร้างความไม่พอใจให้กับผู้มีอำนาจในพรรคพลังประชารัฐเป็นอย่างมาก และมันช่างบังเอิญว่า หลังจากภาพนี้ออกไม่นาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้มีมติชี้มูล เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ขณะดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.สมุทรปราการ เรื่องเงินสนับสนุนวัด
ตอนนั้นมีการตั้งข้อสังเกตกันมากว่า เป็นการทุบเพื่อล่ามกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าไม่ให้ไปไหนหรือไม่
อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นไม่นาน บิ๊กป้อม ได้เทียวไปเทียวจังหวัดสมุทรปราการอยู่หลายรอบ และสามารถผลักดัน สุนทร ปานแสงทอง คนในกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้สำเร็จ ประหนึ่งเป็นการซื้อใจให้อยู่ต่อ
ซึ่ง เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ตัดสินใจอยู่พรรคพลังประชารัฐต่อตามคำขอ แต่ขณะเดียวกัน ได้ส่ง น้องเพลง ชนม์ทิดา ลูกสาวไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ
กระทั่งต่อมามีข่าวออกมาว่า ยุทธวิธีการหาเสียงของกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ คือ เลือกคนของพรรคพลังประชารัฐ และเลือกพรรคภูมิใจไทย
บิ๊กป้อม เองหมายมั่นจะกวาด ส.ส.ยกจังหวัดให้ได้ แต่เมื่อต้องมาสูญเสียขุนพลคนสำคัญ ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลง และยากลำบากมากขึ้น
เพราะ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เปรียบดังนายใหญ่ของกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ที่ทำทุกอย่างเองทั้งหมด โดยแทบจะไม่พึ่งกลไกพรรคพลังประชารัฐแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน การที่กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้าประสบความสำเร็จในระยะหลังได้ ไม่ใช่เพราะนามสกุลอัศวเหม แต่เป็นเพราะนักการเมืองที่ชื่อ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม
ดังนั้น แม้จะมีทายาทรุ่น 2 รุ่น 3 ของตระกูลยังอยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็นอัครวัฒน์ อัศวเหม ต่อศักดิ์ อัศวเหม วรพร อัศวเหม หรือลูกสะใภ้วัฒนาอย่าง ประภาพร อัศวเหม รวมไปถึงทายาทโดยตรงอย่าง น้องเพลง แต่ฝีไม้ลายมือและความเชี่ยวสนามยังเทียบกันไม่ติด
ที่ผ่านมาสมาชิกในกลุ่มเดินตามยุทธศาสตร์ที่ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ แนะนำทั้งหมด เมื่อต้องขาดหัวเรือสำคัญ เป้าหมายที่จะกวาด ส.ส.ยกจังหวัดจึงยากขึ้นหลายเท่าตัว
ที่ จ.สมุทรปราการ กระแสพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลค่อนข้างแรง หากจะมีใครสักคนที่สามารถหยุดยั้งกระแสดังกล่าวได้คือ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ เท่านั้น
วันนี้เมื่อไม่มีคีย์แมนคนสำคัญ กลุ่มสมุทรปราการ อาจถึงขั้นยวบได้ในสนามเลือกตั้งหนนี้
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1