พบเซฟเฮ้าส์ขังนักศึกษาชาวจีน เรียกค่าไถ่ ห่างจากจุดพบศพ 2 กิโลเมตร พยานเผยก่อนเกิดเหตุพบ หญิงสาวชาวจีน มาพบแก๊งอุ้มเหยื่อ ที่บ้านเช่าบ้านหลังก่อเหตุ เชื่อเป็นนกต่อ
วันนี้( 2 เม.ย.)เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางใหญ่ ซึ่งหลังจากที่ชุดสืบสวนทราบว่าเป็นบ้านของชาวจีนกลุ่มที่ก่อเหตุมาเช่าไว้ ซึ่งห่างจาก. พบศพประมาณ 2 กิโลเมตร แต่เมื่อเดินทางมาถึงไม่สามารถเข้าไปในบ้าน ของกลุ่มผู้ก่อเหตุได้เนื่องจากเจ้าที่ตำรวจได้สั่งไม่ให้ ผู้สื่อข่าวเข้าไปด้านใน ซึ่งพบว่าลักษณะหมู่บ้านเป็นบ้านเดี่ยว ด้านนายมีเจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บข้อมูลและหาพยานหลักฐานภายในบ้านหลังดังกล่าว
สอบถาม พันโท ทรงศักดิ์ ยิ้มเยื้อน อายุ 61 ปี ประธานหมู่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองพบเห็นกลุ่มชาวจีนมาเช่าบ้านหลังนี้ได้ประมาณ 10 วันที่ผ่านมา แต่ไม่ทราบว่าทำธุรกิจอะไรแต่จะพบเห็นมีการขับรถเข้าออกบ่อยครั้ง แต่เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะพบศพ ตนเองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งมีลักษณะเป็นชาวจีน ได้ยินมีการพูดคุยโทรศัพท์เป็นภาษาจีน ลักษณะตัวเล็กแต่ไม่ใช่ผู้เสียชีวิตที่ปรากฏในภาพ มาจอดรถขวางบริเวณหน้าบ้านของตนเอง ตั้งแต่เวลา 17:00 น. แล้วติดเครื่องเปิดแอร์ตนเองจึงให้ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านไปให้ผู้หญิงคนนี้ เลื่อนรถออกเพราะขวางหน้าบ้านตนเองซึ่งตนเองจะออกไปทานข้าวนอกบ้าน และทราบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวมาหาบ้านกลุ่มชาวจีนที่เป็นผู้ก่อเหตุ แต่ไม่มีใครอยู่ในบ้านจึงรออยู่ที่หน้าหมู่บ้าน ซึ่งระหว่างนั้น ตนเองสังเกตเห็นผู้หญิงชาวจีนใช้โทรศัพท์และมีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลาจนถึงกระทั่งในเวลา 20.00 น. ตนเองได้ กลับเข้ามาไม่พบผู้หญิงคนดังกล่าวอยู่จึงสอบถาม รปภ. ว่าผู้หญิงที่มาหาชาวจีนได้เข้าไปที่บ้านหลังเกิดเหตุหรือไม่ รปภ. บอกว่าไม่ได้เข้าไป เพราะติดต่อคนที่อยู่ภายในบ้านไม่ได้และได้เดินทางออกไปจากหมู่บ้าน หลังจากรอนานกว่า 3 ชั่วโมง
จนกระทั่งตนเองมาทราบว่า มีผู้หญิงชาวจีนถูกฆ่าทิ้งลงในร่องน้ำใกล้กับหมู่บ้าน และทราบว่าผู้หญิงคนที่ตนเองพบในวันนั้นเป็นผู้ที่หาบ้านเช่าหลังนี้ให้กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ ตนเองจึงตั้งข้อสงสัยว่า ว่าอาจจะเป็นนกต่อที่ล่อลวงให้ผู้ตายออกมาพบกับผู้ก่อเหตุหรือไม่
ส่วนไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ก่อนที่นักศึกษาหญิงชาวจีนถูกอุ้มตัวรีดค่าไถ่ ก่อนจะถูกฆาตกรรมในเวลาต่อมา โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ 28 มี.ค. 2566
เวลา 19.00 น. - 20.52 น.อยู่ที่ ม.กรุงเทพธนฯ
เวลา 20.53 น. เริ่มออกเดินทางไปเซ็นทรัลเวสเกต
เวลา 21.13 น. ถึงบริเวณ ตรงข้ามเซ็นทรัลเวสเกต
เวลา 21.40 น. ออกเดินทางต่อ (เชื่อว่าไม่ได้เข้าเซ็นทรัลเวสเกต เนื่องจากการเดินทางมีลักษณะไปกลับรถ)
เวลา 21.58 น. - 23.53 น. อยู่บริเวณหมู่บ้านพฤกษา 37
ด้าน พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.นนทบุรี กล่าว ว่า เบื้องต้น ตม.นนทบุรี ได้รับการสั่งการจากผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองท่าน พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ เราจะเป็นในส่วนที่คอยสนับสนุนของตำรวจภาค 1 กับ ตำรวจนครบาล ที่ร่วมกันสะสางดำเนินคดีร่วมกับของ สภ.บางแม่นาง โรงพักในพื้นที่ ทางเราก็จะตรวจสอบพื้นที่ในส่วนของบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาก่อเหตุ ก็เห็นว่าดำเนินการกันอยู่ในส่งนตรงนี้ก็จะมีอีก 3-4 คน ซึ่งเราพยายามเก็บข้อมูลหาข้อมูลให้ชุดสืบสวนใหญ่อีกทีเหตุการณ์เกิดมา 3-4 วันแล้ว ตนว่าในส่วนความรู้สึกพอเขาดำเนินการเสร็จก็คิดว่าคงหาช่องทางออกไป ตนคิดว่า ในส่วนข้อมูลค่อยติดตามกันอีกที อีกกรณีนึ่งหากกรณีบุคคลต่างด้าวที่กระทำความผิดเดินทางออกไปแล้ว เราก็สามารถที่จะลงระบบข้อมูลขึ้นเป็นบุคคลต้องห้าม แล้วก็ประสานต่างประเทศเพื่อเชื่อมโยงกับฝั่งของจีนเพื่อดำเนินการต่อเนื่องต่อไป
ส่วนใหญ่คนจีนที่เข้ามาเรียนค่อนข้างมีฐานะ จากทางประเทศจีน ช่วงนี้ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยว และคนจีนบางส่วนก็อยากเรียนรู้ภาษาไทย เพื่อที่จะมาทำงาน หรือเพื่อที่จะท่องเที่ยวหรืออะไรเพื่อให้กลมกลืนกับคนไทยได้ง่ายๆ ก็มาเรียนในมหาลัยในเมืองไทยเยอะ ส่วนตรงนี้ก็จะมีแก๊งต่างชาติก็คือแก๊งคนจีน ที่เขารู้ข้อมูลคนเดินทางมานักศึกษาเดินทางมาเรียนคนนี้มีฐานะ คนพวกนี้ก็จะเก็บข้อมูลและดำเนินการในประเทศเรา ซึ่งเราก็ป้องกันติดตามอยู่ตลอด
และต้องระวังกันเองด้วย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ก็พยายามเก็บข้อมูล ติดตามในข้อมูลระบบการเดินทางอันไหนมีประวัติก็จะผลักดันไม่ให้เข้ามาในราชอาณาจักรไทย