(Police Focus)
ตำรวจ บก.ปอศ.บุกจับ พริตตี้ สาวสุดแสบได้ที่บ้านพักในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังโพสต์เฟซบุ๊กชักชวนกลุ่มเพื่อนพริตตี้ร่วมลงทุน เทรดหุ้น อวดอ้างว่าเคยชนะการแข่งขันการเทรดหุ้นระดับโลกมาแล้ว การันตีกำไร 100 เปอร์เซ็นต์ ลงทุน 30,000 บาท จะได้เงินปันผลกลับมารวม 60,000 บาทต่อ 1 เดือน เลเวลที่ 1 จำนวน 30,000 บาท เลเวลที่ 2 จำนวน 60,000 บาท เลเวลที่ 3 จำนวน 90,000 บาท ช่วงเดือนแรกจ่ายเงินปันผลให้จริง พร้อมโพสต์หลักฐานการโอนเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ มีการสร้างโปรไฟล์ว่าทำธุรกิจนี้แล้วมีชีวิตที่ดีขึ้นโดยโพสต์การใช้ชีวิตอย่างหรูหรา เที่ยวยุโรป อวดสินค้าแบรนด์เนม รถหรู ที่ดิน สร้างบ้านปลดหนี้ให้ครอบครัว รวมถึงไปบริจาคและทำสาธารณประโยชน์ต่างๆ ทำให้มีคนร่วมลงทุนเพิ่มมากขึ้นทั้งกลุ่มเพื่อนพริตตี้ กลุ่มญาติเพื่อนพริตตี้ และกลุ่มแฟนคลับชายรวมทั้งหมด 100 กว่าราย แต่หลังจากนั้นไม่สามารถจ่ายเงินตามที่ตกลงกันได้ก่อนปิดช่องทางการติดต่อแล้วหลบหนีไป มูลค่าความเสียหายเกือบ 200 ล้านบาท
พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 ปอศ.กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้หลอก จริงแล้วเทรดได้จริงแต่ช่วงหลัง User ID โดนบล็อกซึ่งเป็นหุ้นของต่างประเทศ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเพราะทำไมก่อนหน้านี้เทรดได้ทั้งที่ตอนนี้หุ้นตัวนั้นยังมีการเล่นกันอยู่ กรณีนี้เหมือนแชร์ลูกโซ่หลอกลงทุนเรื่อยๆ เอาเงินใหม่ไปจ่ายเงินเก่าวนไปจนกระทั่งถึงทางตัน เพราะแต่ละคนลงทุนจำนวนเยอะบางคนรู้จักกันลงไป 3,700,000 ล้านบาทได้คืนบางส่วน ผู้ต้องหามีหมายจับคดีลักษณะเดียวกันอีก 11 หมายในหลายพื้นที่
ช่วงนี้สภาพเศรษฐกิจบ้านเรา หรือทั่วโลกไม่ค่อยดี คนต้องการหาเงินทองมาช่วยดูแลตัวเองและครอบครัว อาจมีช่องทางให้ อาชญากร อาศัยช่องว่างหลอกลวงประชาชนในยุคที่เงินทองหายากจริงๆ คดีจับพริตตี้ถือเป็นคดีสำคัญความเสียหายเกิดขึ้นกับประชาชนทั่วไปไม่ใช่เฉพาะกลุ่มพริตตี้ โปรไฟล์ของเธอมีคนติดตามค่อนข้างเยอะจึงกระทบกับคนในวงกว้าง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพื่อนและกลุ่มผู้ใกล้ชิดอาชีพเธอ ถ้าไม่มีคนมาร้องทุกข์ หรือยังมีคนลงทุนเรื่อยๆ ก็อาจไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก
สำหรับประวัติ พ.ต.อ.ธีรภาส พื้นเพเป็นชาว จ.นครสวรรค์ จบ นรต.รุ่น 59 เริ่มรับราชการตำแหน่ง พนักงานสอบสวน สภ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี รอง สว.สส.บก.น.5 นายตำรวจติดตาม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ขณะเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร. สว.สส.สน.บางพลัด สว.กก.4 บก.ป. รอง ผกก.4 บก.ป. นายเวร พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ขณะเป็นรอง ผบ.ตร.และขึ้น ผกก.3 ปอศ.รับผิดชอบคดีเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายล่วงหน้า บริษัท การบัญชี สินทรัพย์ดิจิทัล ฯลฯ
ผกก.3 ปอศ.กล่าวด้วยว่า ปอศ.ดูเรื่องเศรษฐกิจ ไฟแนนเชียล เป็นงานใหม่ที่ท้าทายพอสมควรโชคดีได้ผู้ใต้บังคับบัญชาและทีมงานดี มีประสิทธิภาพ มีความรู้ มีวินัย ขยัน อดทน เป็นส่วนสำคัญให้หน่วยเดินหน้าไปได้การทำงานของ กก.3 เรานำข้อมูลจาก กลต. ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานเฉพาะทางมาวิเคราะห์เพื่อสืบหาคนร้ายที่จะก่ออาชญากรรม ตอนนี้คนเริ่มแปลงการเก็บทรัพย์สินในรูปแบบดิจิทัล เชื่อว่าอนาคตอาชญากรรมมาในรูปแบบนี้เยอะจึงเฝ้าติดตามเรื่อยมา
ตนมารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา สิ่งแรกที่ลงมือทำคือการสร้าง จิตวิญญาณ ให้กับตำรวจก่อน โดย มองประชาชน ความยุติธรรม และความรวดเร็วในการทำงานเป็นหลัก สิ่งที่จะได้เห็นหลังจากนี้ทุกคนใน กก.3 มีความรู้เฉพาะทางอยู่แล้ว คาดหวังว่าเมื่อมีคดีเกิดขึ้นการสืบสวนและสอบสวนต้องมีประสิทธิภาพ ประชาชนพอใจทั้งด้านความยุติธรรมและความรวดเร็ว สามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันเรามีสวัสดิการและพัฒนาความรู้เฉพาะด้านอยู่ตลอดเวลา
"คดีเศรษฐกิจส่วนใหญ่เกี่ยวกับมูลค่าความเสียหาย โทษจำคุกไม่มากเท่าไร เน้นเรื่องโทษปรับมากกว่า ความเสียหายค่อนข้างเยอะ แน่นอนว่าหัวใจการทำงานคือความรวดเร็วในทุกด้าน ผมเชื่อว่าไม่เฉพาะที่ ปอศ.รวมถึงทุกหน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม" มือปราบคดีเศรษฐกิจ กล่าว
ผู้กำกับบอยวัย 39 ปี เล่าย้อนว่า สมัยอยู่ สน.บางพลัด ได้ทำคดีพยาบาลอายุ 50 ปี นอนเสียชีวิตในบ้านพักไม่ต่ำกว่า 5 วัน ไล่กล้องวงจรปิดมี 1 ตัวหันเข้ามาแต่ไกลจากที่เกิดเหตุ ทราบข้อมูลว่าในละแวกนั้นมีชายอายุไม่มากมีรสนิยมชอบคนสูงอายุเดินผ่านกล้องช่วงตี 3 นำตัวมาสอบเป็นนักศึกษาปี 2 ปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องจนผ่านไป 1 ชั่วโมง ตนพูดว่า "บางครั้งถ้าทำผิดแล้วรู้สึกอึดอัด ได้ระบายออกมามันก็ดีขึ้นนะ" เด็กร้องไห้กอดขาเราพูดว่า "ไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขา แค่เข้าไปขอยืมเงินเฉยๆ เห็นนุ่งกระโจมอกเลยมีอารมณ์ จะข่มขืน เขากรีดร้องพลั้งมือบีบคอ" ได้ยินคำนี้โล่งขึ้นมาทันที
เป็นคดีที่ไม่รู้อะไรเลยจับกุมภายใน 24 ชั่วโมง ถูกยกเป็น 1 ใน 3 คดียอดเยี่ยมของ บช.น.ในยุค พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ใช้คำว่าโชคช่วยและผู้ใต้บังคับบัญชาดี ประทับใจตรงที่เราพยายามหาหลักฐานทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ ข้อมูลภาคพื้น และข้อมูลโทรศัพท์ นักสืบสมัยนี้ต้องเริ่มจาก ภาคพื้น ถ้าเดินดินเก่งข้อมูลพื้นฐานแน่น ประกอบกับเทคโนโลยีจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์มาก โชคดีได้อยู่กับนักสืบสมัยก่อน อาทิ พล.ต.อ.อัศวิน และ พล.ต.อ.สุทิน คิดละเอียดสงสัยทุกอย่างไม่ปล่อยผ่านแม้กระทั่งเศษธูปเศษดิน
ตนเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งแต่พอถึงเวลาทำงานทำเต็มที่ รับฟังความคิดเห็นผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนไม่ว่ายศอะไรก็ตาม มีความคิดเท่าเทียมกันหมดฉะนั้นให้ความสำคัญกับทุกคนที่ทำงานด้วย ถ้าถามถึงความสำเร็จหลายคนมองที่ตัวชี้วัดสำหรับตนเป็น ความพึงพอใจของประชาชน แต่ทว่าความเป็นจริงถ้ามีฝ่ายหนึ่งพอใจอีกฝ่ายก็ไม่พอใจ คำว่าอาชีพตำรวจคือ การพิทักษ์คุณธรรม การให้ความยุติธรรมกับประชาชน ถึงแม้คนอาจมองว่าไม่สำคัญเหมือน ผ้าขี้ริ้ว ถ้าพื้นบ้านสะอาดไม่นึกถึง เมื่อไรที่บ้านสกปรกทุกคนจะเริ่มนึกถึงมัน.