“โกศลวัฒน์”เผย อัยการปราบทุจริตยื่นฟ้อง 6 ตำรวจห้วยขวาง ตั้งด่านเรียกเงินดาราสาวไต้หวันครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ชี้โทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิต
วันนี้ (31 มี.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดเปิดเผยความคืบหน้าคดี ตำรวจ สน.ห้วยขวางทั้ง6นาย ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบฯ”กรณี อัน อวี๋ฉิง หรือ ชาลีน อัน ดาราสาวไต้หวันถูกตำรวจไทยรีดไถเงินรวม 27,000 บาท ความว่า สำหรับคดีนนี้เหตุเกิดพื้นที่ สน.ห้วยชวาง อัยการได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการทุจริต อัยการได้พิจารณา สำนวนโดยละเอียดครบถ้วนแล้ว
วันนี้นายรชต พนมวัน อัยการพิเศษฝ่ายสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายปราบปรามทุจริต 3 มีคำสั่งฟ้องเสนอผู้บังคับบัญชายื่นฟ้อง ผู้ต้องหาทั้งหมด แล้วเป็นคดีหมายเลขดำที่อท.54/2566 โดยสั่งฟ้อง ร.ต.อ.ยอดฤทธิ์ ลางคุลเสน อดีตรอง สวป.สน.ห้วยขวาง,ร.ต.อ.ปฏิภาณ ศิริชัยวัฒนา อดีตรอง สว.ธร.สน.ห้วยขวาง ,ส.ต.อ.นันทวัชร์ สุวรรณา อดีตผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง,ดต.กฤษฎา คำมะนา อดีตผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง, ส.ต.อ.เฉลิมชัย ศิริวังโส อดีต ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวาง ส.ต.อ.วัชรนนทร์ ชาวทอง ผบ.หมู่ ป. สน.ห้วยขวางผู้ต้องหาที่1-6 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ,เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่วาการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83,149, 157 พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2502 มาตรา 5,13 พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่26) พ.ศ.2560 มาตรา 7 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561มาตรา 172, 173
เเละขอศาลสั่งริบเงินสินบนจำนวน 27,000 บาท ที่ผู้ต้องหาทั้ง 6 ได้มาจากการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการคดีนี้ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน
โดยศาลอาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งประทับรับฟ้อง เเละนัดสอบคำให้การวันที่ 18 เม.ย. 09.30 น. จำเลยยังมีสิทธิ์ต่อสู้คดีตามกฎหมายต่อไป
นายโกศลวัฒน์ รองโฆษกอัยการ ยังระบุอีกว่า มาตรา 149 ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้ระบุเอาไว้ว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปีถึง 20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 1 แสนบาทถึง 4 แสนบาท หรือประหารชีวิต