xs
xsm
sm
md
lg

แถลงปิด 2 คดีใหญ่ แก๊งจีนเทาตุ๋นลงทุน อ้างเบื้องสูง-ตั้งสมาคมเถื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบ.ตร.แถลงปิด 2 คดีใหญ่ แก๊งจีนเทาอ้างเบื้องสูง หลอกเพื่อนร่วมชาติมาลงทุน และอีกคดีแก๊ง 14K ตั้งสมาคมเถื่อน

วันนี้ (29 มี.ค.) ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมตำรวจชุดคลี่คลายคดีทุนจีนสีเทา แถลงปิดคดี ใหญ่ 2 คดี ซึ่งประกอบด้วย คนจีนแอบอ้างเบื้องสูง หลอกคนจีนด้วยกันเอง กับคดีแก๊ง 14K ตั้งสมาคมเถื่อน

โดยคดีแรก เป็นการจับ นายหยู ซิน ฉี เป็นผู้ก่อตั้ง มณฑล ซานซี สมาคมแห่งประเทศไทย ซึ่งสมาคมดังกล่าว จะเป็นการชักจูง แนะนำคนจีน เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ ธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร และจิวเวลรี่ เครื่องประดับ แลกเปลี่ยนเงินตรา โดยกลุ่มเป้าหมายเป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีฐานะทางการเงิน และต้องการออกไปประกอบธุรกิจต่างประเทศ วิธีการชักจูง จะออกจดหมายเชิญเข้าร่วมการสัมมนา การประชุม เข้าชมนิทรรศการต่างๆ คนที่ทำหน้าที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กับกลุ่มทุน เพื่อเป็นการสร้างความประทับใจ

สำหรับพฤติการณ์ที่สร้างความไว้วางใจให้กับกลุ่มคนจีน คือการเข้าร่วมกิจกรรมงานสำคัญระดับชาติของไทย และถ่ายรูปร่วมกับบุคคลสำคัญของไทย อาทิ นายกรัฐมนตรี รองผบ.ตร. และบุคคลสำคัญอื่นๆ รวมทั้งราชวงศ์ ก่อนนำรูปดังกล่าวไปใช้แอบอ้าง เพื่อสร้างความน่าเขื่อถือ ที่สำคัญ นายหยู ซิน ฉี ยัง ยังจัดทำนามบัตร และระบุว่าเป็นสมาชิกราชวงศ์กิตติมาศักดิ์ และนำนามบัตร แจกจ่ายให้นักลงทุนชาวจีน

ตำรวจชุดเฉพาะกิจ ซึ่งมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นหัวหน้าชุดร่วมกับกรมการปกครอง เข้าตรวจค้นสมาคมดังกล่าว ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านสายไหม จากการตรวจสอบพบว่า สมาคมดังกล่าวไม่ได้มีการจดทะเบียนการจัดตั้งสมาคมตามกฎหมายไทย เป็นการก่อตั้งลักษณะฉ้อโกง หาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง โดยทุจริต จึงแจ้งข้อกล่าวหา จัดตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และเตรียมแจ้งข้อหาตามมาตรา 112 ในวันนี้

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายหยู ซิน ฉี เป็นบุคคลที่ถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงพฤติกรรม แอบอ้าง บุคคลสำคัญ หลอกเพื่อนร่วมชาติลงทุนในไทย ก่อนนำหลักฐานส่งมอบให้กับตำรวจสน.นางเลิ้ง ดำเนินการ ต่อมา คดีนี้มีการถูกโอนให้ชุดเฉพาะกิจของ รองผบ.ตร.เป็นผู้ดำเนินการ

จากการสืบสวนของชุดเฉพาะกิจพบว่า คดีนี้ มีตำรวจตม. ร่วมกระทำความผิดตั้งแต่การช่วยเหลือนายหยู ซิน ฉี ตั้งแต่การเปิดทางให้นายหยู ซินฉี เข้าไทยได้อย่างสะดวก และมีการต่อวีซ่า โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องดำเนินการ และมีการปรับเปลี่ยนวีซ่า

ขณะนี้ นายหยู ซิน ฉี ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พร้อมกันนี้ต้องรับโทษที่ไทย ก่อนจะเตรียมผลักดันกลับประเทศ กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศจีนต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า หลังจากหารือกับสถานเอกอัคราชทูตจีน ทางการจีน เห็นด้วยกับข้อหาที่ตำรวจไทยแจ้งทุกข้อหา พร้อมยื่นคำร้องขอนำตัวผู้ต้องหารายนี้ กลับไปดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายจีน

ส่วนคดีที่สอง เป็นการปิดคดีทลายสมาคมเถื่อนแก๊ง 14K หลอกลวงทรัพย์สิน และหาผลประโยชน์จากคนไทยและคนจีน โดยคดีนี้ชุดเฉพาะกิจได้สืบสวนพบว่า มีกลุ่มคนจีน ทำการจัดตั้งสมาคมเถื่อน ภายใต้ชื่อสมาคม หง เหมิน โดยสมาคมแรก คือสมาคมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมโลก หง เหมิน ซึ่งมีนาย ป๋าย จ้าว ฮุย เป็นประธานสมาคม ซึ่งสมาคมดังกล่าว ตั้งอยู่พื้นที่ ย่านวังทองหลาง ส่วนสมาคมที่สอง สมาคมพันธมิตร หง เหมิน โลก มีนายวุฒิ แซ่เหลียง เป็นประธานสมาคมประจำสาขาไทย ในพื้นที่บางขุนเทียน

จากการตรวจสอบของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าทั้งสองสมาคม ไม่ได้มีการจัดตั้งสมาคมอย่างถูกต้อง และการตรวจค้น เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบพยานหลักฐานจำนวนมาก จึงออกหมายจับ นายป๋าย จ้าว ฮุย เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แต่นายป๋าย จ้าว ฮุย รู้ตัวล่วงหน้าเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างประสานงานระหว่างทางการไทยและจีน เพื่อทำการตรวจสอบว่า หลบหนีไปอยู่ที่ใด ซึ่งนายป๋าย จ้าว ฮุย เป็นบุคคลหนึ่งที่ทางการจีนต้องการตัว กลับไปดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ทั้งคดีมณฑลชานซี สมาคมแห่งประเทศไทยของนายหยู ซิน ฉี และสมาคมหงเหมิน ของป๋าย จ้าว ฮุย ทั้งสองคดี ไม่มีเจ้าทุกข์มาแจ้งความดำเนินคดีแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นคดีจีนเทาหลอกจีนเทา และจีนดำหลอกจีนดำ จึงทำให้คดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น