จากกรณีที่ช่วงเช้าวันนี้ทางผู้บริหารพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้นัดประชุมติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ 400 คน 400 เขต ณ อาคารเดอะ พอร์ทอล ไลฟ์ สไตล์ คอมแพล็กซ์ ห้องเดอะ พอร์ทอล บอลรูม ชั้น 4 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมเปิดตัว พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ตามมติในที่ประชุมของทางพรรค โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันดับ 2 และมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นผู้กล่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 4 ภาค ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 มี.ค. นายเกรียงไกร จงเจริญ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค-หนองแขม พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า แม้จะต้องสวมเสื้อตัวใหม่ แต่ความตั้งใจที่จะทำเพื่อพี่น้องประชาชนชาวบางแค-หนองแขม นั้นยังเป็นคำตอบสุดท้าย การเปลี่ยนที่สู่ รทสช. แต่ยืนยันตนไม่เปลี่ยนใจ ถือเป็น "ภารกิจใหม่ หัวใจเดิม" อีกครั้ง หลังจากที่ตนขอเกษียณอายุราชการจากตำแหน่ง ผอ.สำนักการศึกษา กทม.มาลงสนามการเมืองตามความใฝ่ฝัน ที่สำคัญกรรมการบริหารพรรคโดยเฉพาะนายทะเบียนพรรค ถือว่ามีความสนิทคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่านเกรียงยศ สุดลาภา ซึ่งเคยได้ร่วมทำงานกันมาก่อน ตั้งแต่สมัยตนเป็นผู้อำนวยการสำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร ท่านเป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งดูแลสำนักการศึกษา จึงถือว่าทำงานเข้าขากันมาก ท่านให้เกียรติซึ่งกันและกัน ซึ่งตนถือเป็นหัวใจหลักของการทำงาน ผลลัพธ์ของงานนั้นจะประสบความสำเร็จอย่างมีคุณภาพตรงตามเป้าหมายเดียวกัน
"ไม่ว่างานด้านการเมืองหรือการปฏิบัติราชการ การทำงานต้องได้ทั้งใจกันและกัน จึงจะได้เนื้องาน วันนี้ได้กลับมาทำงานร่วมกันในฐานะขุนพลพรรครวมไทยสร้างชาติก็มีความสุข เป็นเรื่องที่น่ายินดี ต้องเรียนว่าแม้ก่อนหน้านี้ตนจะไม่ได้ตัดสินใจเข้ามาอยู่ที่นี่ แต่ ณ วันนี้ถือเป็นเรื่อง มหัศจรรย์ ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดมอบโอกาส ให้ตนเข้าไปทำงาน รับใช้ท่านในพื้นที่บางแค รวมถึงเขตหนองแขม แขวงหนองค้างพลู โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาของเด็กและเยาวชนซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาคน และพัฒนาประเทศชาติ" นายเกรียงไกร กล่าว.
