นอภ.คลองหลวง สั่งดำเนินคดีเจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยโหด ทวงเงินไม่ได้ล็อกกุญแจบ้านลูกหนี้
เมื่อเวลา09.00 น.วันที่ 24 มี.ค.66 นายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง ว่าที่ร้อยตรีพิชญะ เพียราช ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอคลองหลวง พ.ต.ต.วีระ สุขชนะ สว.สส.สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่อบต.คลองสามได้ลงที่บ้านเลขที่ 6/98 หมู่บ้านราชพฤกษ์ 1 ม.4 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และเครื่องอุปโภคไปเยี่ยมนางประทีป พันธ์โคกกรวด อายุ 79 ปี พร้อมทั้งให้ความช่วยนางสาวนันทนัช สาธุเศรณี อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวและติดหนี้เงินกูนอกระบบอยู่หลายแสนบาทจนไม่กล้าออกจากบ้านและยังใช้กุญแจล๊อคประตูบ้านไว้ด้านใน เพื่อไม่ให้คนด้านนอกรู้โดยปล่อยแม่ไว้บนเตียงด้านล่างคนเดียว
ด้านนายนิติชัย วิริยานนท์ นายอำเภอคลองหลวง กล่าวว่าในเรื่องของเจ้าหน้านั้นก็จะเข้าระบบของศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองหลวงเจรจาในเรื่องของหนี้ที่แท้จริง ไม่ให้ดอกเบี้ยเกินจากที่กฎหมายกำหนด ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ยอมลดลงมาก็จะดำเนินการจับกุมทันทีและจะให้สรรพกรลงมาดูเรื่องภาษีด้วย จะรู้กันไปเลยว่าหน่วยงานราชการกับเจ้าหนี้นองระบบว่าไครจะใหญ่กว่ากัน ส่วนความเป็นอยู่ของคุณยายนั้นเมื่อหลังเคลีย์กันได้แล้วลูกสาวก็ต้องไปทำงาน คุณยายก็ต้องอยู่คนเดียวก็ได้ประสานไปทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลความเป็นอยู่ของคุณยายด้วยซึ่งทางเจ้าหน้าที่และคุณยายทางอำเภอคลองหลวงก็จะดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งทางอำเภอคลองหลวงเป็นที่พึ่งของประชาชน
ด้านนางสาวนันทนัช สาธุเศรณี อายุ 55 ปี ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองทำงานบริษัทหลังจากมีโควิคก็ทำงานอยู่ที่บ้านซึ่งทางบริษัทค้างเงินตนเองอยู่ประมาณ 3 แสนกว่าบาทคนงานคนอื่นก็ฟ้องร้องกันอยู่ ส่วนตนเองไม่ได้ฟ้องเพราะอยู่กับบริษัทมานานซึ่งเราก็อดทนและก็ตกงานมาตลอดด้วยอายุที่มากแล้วซึ่งก็มาค้าขายบ้าง เมื่อปี2564 แม่ผ่าตัดและแพ้ยาฆ่าเชื้อกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงค่าใช้จ่ายสูง ตนจึงไปกู้หนี้นอกระบบซึ่งตนเองทำงาน7วันอยู่แล้ว ซึ่งคนที่ 1.เงินต้น20,000 บาท จ่ายดอก 15 วัน4,000 บาท ดอกเบี้ยตกเดือนล่ะ8,000 บาท คนที่ 2 เงินต้น50,000 บาท ดอกเบี้ยวันล่ะ 2,000 บาท คนที่3 เงินต้น 140,000 บาท ดอกเบี้ยเดือนล่ะ 28,000 บาท ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่บางคนไปด่าเราที่หน้าบริษัทจนเราไม่สามารถไปทำงานได้ มาวันนี้ทางนายอำเภอคลองหลวงเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาช่วยเหลือก็รู้สึกดีใจมากเพราะบ้านหลังนี้ก็เช่าเขาอยู่เดือนล่ะ 4,500 บาท
ด้านนางรวีวัลย์ สุทธิกิติกาพงษ์ เจ้าหนี้ บอกว่าเขาโทรศัพท์มายืมเงินซึ่งตนเองเป็นเพื่อนกันทักมาในเฟสบุ๊คซึ่งเขาบอกว่าอยากยืมเงินเพื่อพาแม่ไปหาหมอ แม่ไม่สบายขอยืมเงิน 10,000 บาท ช่วงแรกก็คืนเงินตรงกำหนด แต่เขายืมบ่อยและคืนไม่ค่อยตรงเพราะเราก็ต้องใช้เงินเราก็บอกว่าให้คืนเงินตรงด้วย ตั้งแต่วันที่ 6มกราคม 2566 เขาก็บอกใลน์ปิดเครื่องจนต้องไปตามเขาที่บ้าน
