xs
xsm
sm
md
lg

ศาลให้ฝากขัง 3 ตร.ตรวจคนเข้าเมือง อุ้มชาวจีนเรียกเงิน 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลอาญาคดีทุจริตให้ฝากขัง 3 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง อุ้มชาวจีนเรียกเงิน 10 ล้าน หลัง ตร.ดินแดง ค้านประกัน เหตุผู้ต้องหาจะหลบหนีจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน เเละมีพฤติการณ์ขัดขืน ไม่มาพบตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

วันนี้ (23 มี.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง นำตัว ด.ต.พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1, พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ อายุ 32 ปี สาวัตรกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง, ร.ต.ท.สุริยะ รุกขชาติ อายุ 55 ปี รองสารวัตร กองกำกับการสืบสวน (สายงานสืบสวน) กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 ผู้ต้องหา 1-3 ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มายื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วันต่อศาลในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน ร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่น ใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือ มิชอบด้วยหน้าที่เป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือ กระทำด้วยประการใดให้ ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149, 157, 309 วรรคสอง, 310 ประกอบมาตรา 83 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ผู้ต้องหากับแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกร้องให้ผู้เสียหายจ่ายเงิน จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อไม่ให้ถูกจับ ผู้เสียหายให้ลูกชายโอนเงินให้แล้ว ร.ต.ท.ประวิต กับพวกคืนโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้เสียหายแล้วปล่อยตัว
หลังเกิดเหตุ ผู้กล่าวหาจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับ ด.ต.พีระศักดิ์ ยิ้มไพบูลย์, พ.ต.ต.สรวิศ อินทร์ลับ, ร.ต.ท.สุริยะ รุกขชาติ และ พ.ต.ต.จิรภัทร บุญนำ กับพวกรวม 7 คน จนกว่าคดีจะถึงที่สุดต่อไป โดยเหตุที่นายต้าเกอ หนึ่งในผู้เสียหายไม่มาร้องทุกข์ดำเนินคดีพร้อมกับผู้กล่าวหา เนื่องจากนายต้าเกอ กลัวว่า จะถูกจับกุมดำเนินคดี จึงได้หลบหนีออกนอกประเทศไป ส่วนหลักฐานการโอนเงินของนายต้าเกอ อยู่ในระหว่างที่ผู้กล่าวหา จะทำการประสานกับลูกชายของนายต้าเกอเพื่อนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนประกอบการดำเนินคดีในภายหลัง

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 นาย และจับกุมตัวได้ก่อนนำตัวมายื่นฝากขังในวันนี้ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยื่นค้านประกันตัว เนื่องจากมีเหตุควรเชื่อว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานเเละก่อเหตุภยันตรายประการอื่น และมีพฤติการณ์ขัดขืนไม่มาพบตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการรวมกลุ่มกันเพื่อเตรียมการหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ประกอบกับคดีมีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยร่วมกันกระทำความผิดหลายคน ซึ่งเป็นการกระทำเสื่อมเสียภาพลักษณ์ขององค์กร เป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ประกอบกับผู้เสียหายเป็นหญิงซึ่งเกิดความหวาดกลัวเกรงว่าจะได้รับอันตราย

ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้

ต่อมา พ.ต.ต.สรวิศ เเละ ร.ต.ท.สุริยะ ผู้ต้องหาที่ 2-3 ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ส่วนผู้ต้องที่ 1 ไม่ได้ยื่น

ศาลพิเคราะห์เเล้วเห็นว่า ความผิดที่ถูกกล่าวหามีโทษสถานหนัก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบกระเทือนต่อความเชื่อมั่นศรัทธาของประชาชน ผู้ต้องหาเป็นเจ้าพนักงานอาศัยตำแหน่งหน้าที่ การงานกระทำความผิด หากได้รับการปล่อยชั่วคราวอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราวจึงไม่อนุญาตยกคำร้อง

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างฝากขัง
กำลังโหลดความคิดเห็น