“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 21 มีนาคม 2566 ตอน รัฐบาลลาโรง กกต.รับไม้ต่อ มีเสียว ปมแบ่งเขต
การเมืองไทยหลังการยุบสภาฯ 20 มีนาคม ทำให้คณะรัฐมนตรี บิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ มีสภาพเป็นครม.รักษาการ แม้จะสามารถประชุมครม.ได้ทุกสัปดาห์เหมือนเดิม แต่อำนาจการเมืองต่างๆจะลดน้อยลงไปมาก ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 169
คือยังเป็นครม.ที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ต่อไป จนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ แต่ระหว่างนี้ ครม.ประยุทธ์ จะไม่สามารถทำเรื่องใหญ่ๆ สี่เรื่อง คือ
ไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือกกต.ก่อน
ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากกกต.
ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใด ซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง
ไม่อนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี
ทั้งหมดจะเห็นได้ว่า จากการจำกัดอำนาจของฝ่ายบริหารดังกล่าว ดุลอำนาจใหญ่ทางการเมือง จะเปลี่ยนจากทำเนียบรัฐบาล ตึกไทยคู่ฟ้าและกระทรวงต่างๆ ไปอยู่ที่สำนักงานกกต.ทันที
นับแต่นี้ กกต.จะอยู่ในช่วง power full ทางการเมือง อย่างแท้จริง เพราะมีอำนาจทั้งควบคุมฝ่ายบริหารในการจะออกมติครม.อะไรที่สุ่มเสี่ยงจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 169 ไม่ได้ หากรัฐบาลจะทำ ต้องมาขออนุมัติจากกกต.
และยังมีอำนาจกึ่งตุลาการกลายๆ เพราะเป็นผู้ตัดสินให้ใบต่างๆ กับผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส. กรณีมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งใบเหลือง ใบส้ม ใบแดง ในช่วงการหาเสียงและหลังการหาเสียงเสร็จสิ้นลง รวมถึงการพิจารณายุบพรรคด้วย
อย่างไรก็ตาม กกต.ที่กำลัง power full เวลานี้ ทุกฝีก้าวพบว่า ถูกจับจ้องจากประชาชนและพรรคการเมือง ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่ว่าจะปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง เป็นธรรม เที่ยงตรง และทำงานถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย หรือไม่
หลังก่อนหน้านี้ เกิดกรณี เรื่องกกต. นำบุคคลไม่ใช่สัญชาติไทยมาคิดรวมเป็นราษฎรไทย ในการคิดคำนวณจำนวนส.ส.เขตที่แต่ละจังหวัดพึงมี แต่ยังดีที่กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และศาลชี้ออกมาว่าไม่สามารถนำคนที่ไม่ใช่สัญชาติไทยมารวมได้
โดยหากกกต.ตอนนั้น ไม่ส่งคำร้อง แล้วเกิดต่อมามีคนไปร้องในช่วงมีการเลือกตั้งแล้วเกิดศาลวินิจฉัยออกมาว่ากกต.ทำผิด ก็อาจมีผลทำให้ การเลือกตั้งโดนล้มกระดานถึงขั้น อาจเป็นโมฆะได้ และยังดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยดังกล่าวโดยไม่ให้มีผลย้อนหลัง ทำให้ เลือกตั้งปี 2562 ที่กกต.ชุดปัจจุบันนี้ ก็นำคนที่ไม่ใช่สัญชาติไทยมาคิดคำนวณ
เพราะหากศาลไม่ระบุไว้แบบนั้น ก็ยุ่งครั้งใหญ่เพราะอาจทำให้มีคนไปร้อง เพื่อทำให้การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เป็นโมฆะได้
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ มีเรื่องที่ต้องติดตาม จากคำร้องที่ มีคนไปร้องต่อศาลปกครองกลาง ในประเด็นว่า การแบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขตไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือกตั้งและประกาศของกกต.ที่เกี่ยวข้อง
โดยเฉพาะคำร้องของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าที่ไปร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เพราะเห็นว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งพื้นที่กทม.ของกกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงขอให้ศาลเพิกถอนประกาศการแบ่งเขตเลือกตั้ง แต่สุดท้าย ก็ไม่ทัน เพราะกกต.ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แล้วเมื่อช่วงค่ำ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา
เรื่องนี้ต้องดูว่า ฝ่ายศาลปกครองจะขยับอย่างไร จะรับคำร้องไว้พิจารณาและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว อะไรออกมาหรือไม่
โดยเฉพาะหากมีการสั่งคุ้มครองชั่วคราวในช่วงหลังจากนี้ ก็อาจทำให้เกิดปัญหาแน่นอน แม้อาจจะทำเฉพาะแค่เขตเลือกตั้งที่ถูกมองว่ามีปัญหา จากที่มี 33 เขต
ซึ่งหากผลออกมาแบบนี้ จะยิ่งเป็นการซ้ำรอยเดิม ที่ทำให้เห็นว่า การทำงานของกกต.มีปัญหา หลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลง อาจมีการกดดันและเช็คบิลกกต.ให้รับผิดชอบ
แต่หากศาลปกครองบอกว่า กกต.แบ่งเขต ถูกต้อง ก็จบ
ดังนั้น แม้กกต.จะมี power full ในตอนนี้ แต่ก็มี ระเบิดเวลา อยู่ใต้เก้าอี้เช่นกัน
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1