ขุนพลพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อ้าแขนรับ เกรียงไกร จงเจริญ อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมชายคาอย่างอบอุ่น หลังเจ้าตัวถูกพิษการเมือง บิดพ้นพื้นที่นาทีสุดท้ายแม้ผู้บริหารแลนด์สไลด์ ประกาศเป็นตัวแทนในนามเพื่อไทย มาแล้วถึง 3 รอบ
วันที่ 20 มี.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร รองหัวหน้าพรรค รศ.พิเศษ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองหัวหน้าพรรคและ นายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้บริหารพรรค ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวให้การต้อนรับ และร่วมกันสวมเสื้อพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้กับนายเกรียงไกร จงเจริญ อดีต ผอ.สำนักการศึกษา กทม. ซึ่งก่อนหน้านี้ขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด เพื่อมาลงสนามเลือกตั้ง ในนามว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางแค พรรคเพื่อไทย แต่ผลสุดท้ายถูกเบียดให้ย้ายไปลงเขตเลือกตั้งที่ 32 อย่างไม่ใยดี ทั้งที่ทีมผู้บริหารพรรคมีการแถลงตอบข้อซักถามต่อสื่อมวลชน และยืนยันตัวบุคคลในพื้นที่เขตบางแค มาแล้วถึง 3 ครั้ง 3 ครา
นายเอกนัฏ กล่าวว่า ส่วนตัวตนรู้จักนายเกรียงไกรเป็นอย่างดีตั้งแต่เป็น ส.ส.ปี 2554 ตอนนั้น นายเกรียงไกรเป็น ผอ.เขตบางแค กระทั่งเป็น ผอ.สำนักการศึกษา กทม. ส่วนตัวถือว่า นายเกรียงไกร เป็นข้าราชการที่มีผลงานทำงานใกล้ชิดกับประชาชนพอทราบว่า มีความประสงค์จะลงสมัครส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็เลยชวนมาอยู่ด้วย สำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติเราไม่มีปัญหากับผู้สมัครคนเก่าที่นายเกรียงไกร จะมาลงสมัครแทน
ด้าน นายเกรียงไกร เปิดเผยว่า ตนได้ลงพื้นที่หาเสียงในนามพรรคเดิมที่สังกัดมากว่า 3 เดือน หลังจากลาออกจากราชการในตำแหน่ง ผอ.สำนักการศึกษา กทม. เพื่อมาทำงานการเมืองแม้อายุราชการจะมีถึงเดือนกันยายนปีนี้ แต่ได้ลาออกก่อนเพื่อลงพื้นที่พบประชาชนเพราะมีความตั้งใจจะมาดูแลปัญหาของประชาชนในพื้นที่เขตบางแค เนื่องจากมีความผูกพันธ์กับประชาชนในพื้นที่และเคยเป็นอดีต ผอ.เขตบางแค มาก่อน
ส่วนเหตุผลที่ต้องย้ายพรรคเนื่องจากพรรคเดิมที่เคยสังกัดมีผู้สมัครคนใหม่ และให้ตนย้ายไปลงเขตเลือกตั้งที่ 32 การย้ายเขตไม่ตรงตามเจตนารมณ์ ประกอบกับตนหาเสียงในเขตนี้มากว่า 3 เดือนและที่สำคัญเคยเปิดตัวแจ้งให้ประชาชนใน กทม.ทราบมาแล้วถึง 3 ครั้งว่าลงสมัครในเขตนี้ แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองของพรรคเก่าต้องการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร หรือเหตุผลอื่นตนก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่อยากไปต่อว่าหรือโจมตี เมื่อจากกันแล้วก็อยากจากกันด้วยดี อยากทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่ว่าพอออกจากพรรคเก่าก็ใส่ร้ายโจมตี
เหตุผลที่เลือกลงสมัครในพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นพรรคที่มีความชัดเจนในเรื่องนโยบาย นำไปสู่การปฏิบัติได้ถึงประชาชน อย่างแท้จริง และเป็นพรรคที่ให้เกียรติคนทำงาน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนได้รับและจะขอสู้ต่อเพื่อคนบางแคต่อไป ตนไม่หนักใจที่ต้องหาเสียงในนามพรรครวมไทยสร้างชาติและเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ แต่การเมืองต้องมีสปิริตมีมารยาทและให้เกียรติกัน สมัยตนรับราชการตั้งแต่เป็น ผอ.เขตบางแค เป็น ผอ.สำนักการศึกษาดูแลนักเรียน กทม.กว่า 2 แสนคนและครูสังกัด กทม.จำนวนมากไม่เคยถูกกระทำแบบไม่ให้เกียรติแบบนี้มาก่อน อย่างไรก็ตามก็ไม่เสียใจขอเดินหน้าต่อสู้เพื่อความถูกต้องและเพื่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะครู รวมถึงพลังเงียบต่าง ๆ ที่มีความผูกพันกันส่งข้อความมาให้กำลังใจจำนวนมาก
“สิ่งที่ถูกกระทำในวันนี้จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนให้ทำงานหนักและเหนื่อยกว่าเดิม พร้อมสู้ต่อไปโดยไม่มองว่าถูกหักหลังเพราะเคารพการตัดสินใจของพรรคเก่า ขอขอบคุณพรรครวมไทยสร้างชาติที่ให้โอกาส ผมทำตามฝันต่อไปคือลงสมัครในพื้นที่บางแค ผมจะทำงานให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะพี่น้องชาวบางแคมีความผูกพันกันมานาน เมื่อได้โอกาสมาทำหน้าที่ตรงนี้จะขอทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ขอพูดถึงพรรคเก่าเพื่อไม่ให้เกิดความบาดหมางใจกัน ขอมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานในฐานะสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป” นายเกรียงไกร กล่าว.