อดีตผู้สมัคร ผู้ว่า กกท.ร้อง ปปป. เอาผิด 157 "ก้องศักดิ์" ผู้ว่า กกท. ละเมิดมติบอร์ดไม่จ่ายเบี้ยเลี้ยงให้นักกีฬาโดยตรง ซ้ำขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ว่าฯ เพราะมีตำแหน่งทางการเมือง
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายอนันต์ชัย ไชยเดช พา นายอธิปรัฐ กาญจนสุวรรณ อดีตผู้สมัครผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เข้าพบ ร.ต.อ.ภูสิทธิ์ บุตรแสง รอง สว.สอบสวน กก.3 บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กับพวก ในข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และตาม พ.ร.บ.ความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502
นายอธิปรัฐ กล่าวว่า วันนี้ได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษใน 3 ประเด็น คือ 1.เรื่องการสรรหาผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2561 โดยมิชอบ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2561 ได้มีการประกาศ สรรหาผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ตนเองก็เป็นบุคคลหนึ่งที่ได้เข้ารับสมัครเพื่อคัดเลือกเป็นผู้ว่าฯ ซึ่งตามประกาศดังกล่าวระบุไว้ในข้อ 1.8 ว่า ผู้ที่จะลงสมัครนั้นต้องไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งในทางพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมือง แต่ตัวนายก้องศักดิ์ ผู้ว่าการการกีฬาฯคนปัจจุบัน มีประวัติการทำงาน ปี 2558 จนถึงขณะสมัคร อยู่สังกัดพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง เป็นคณะทำงานด้านนโยบายการกีฬา จากคุณสมบัติดังกล่าวถือว่า เป็นการขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ว่าฯ แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการสรรหา ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กลับคัดเลือกให้นายก้องศักดิ์ เป็นผู้ว่าฯ จึงขอให้ดำเนินคดีกับนายก้องศักดิ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
นายอธิปรัฐ กล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่จะเอาผิดเรื่องที่ 2 เป็นเรื่องการที่นายก้องศักดิ์ ละเมิดมติบอร์ดของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี 2562 เนื่องจากพบว่ามีการหักค่าหัวคิวจากการจ่ายเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาจากสมาคม ทำให้นักกีฬาไม่ได้รับเงินตามจำนวนที่ต้องได้รับ ต่อมา คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้มีมติถึง 3 ครั้ง ให้จ่ายเงินแก่นักกีฬาโดยตรง แต่นายก้องศักดิ์ กลับละเมิดมติบอร์ดดังกล่าวโดยการโอนเงินให้กับสมาคม ไม่โอนให้กับนักกีฬาโดยตรง
นายอธิปรัฐ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องสุดท้ายคือ เรื่องการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้สมาคมต่างๆ ยืมเงินอันเป็นการผิดระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี 2562 และ 2564 สมาคมต่างๆ ได้กู้ยืมเงินกับการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยใช้กระดาษแผ่นเดียว ไม่มีการวางหลักทรัพย์เป็นการค้ำประกัน ซึ่งเป็นการผิดระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ.2562 ข้อ 58 นอกจากนี้ เงินเก่ายังไม่ใช้ แต่กลับให้กู้ใหม่ อันเป็นการผิดระเบียบกระทรวงการคลัง ข้อ 59 จึงมาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับนายก้องศักดิ์ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, มาตรา 11
ด้านนายอนันต์ชัย กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ก็เป็นกรณีต่อเนื่องกันจากกรณีที่ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางคุณอธิปรัฐ ได้นำเอกสารมาร้องเรียนกับตนเอง หลังการแถลงข่าวในวันนั้น พร้อมทั้งประกาศว่าจะเป็นผู้ร้องทุกข์แทน ดร.สุปราณี เนื่องจากคุณอธิปรัฐ ก็เป็นผู้เสียหายโดยตรงจากการที่คณะกรรมการสรรหาผู้ว่าฯ กกท. ได้มีการฮั้วกับ นายก้องศักดิ์ และเลือกนายก้องศักดิ์ ขึ้นมานั่งเก้าอี้ผู้ว่าฯ กกท. ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านายก้องศักดิ์ ขาดคุณสมบัติ
นายอนันต์ชัย กล่าวด้วยว่า การที่ตนเองเข้ามาดำเนินการในคดี เนื่องจากเป็นคดีต่อเนื่องกัน อีกทั้งผู้ก่อเหตุก็คนเดียวกัน ส่วนหลักฐานที่นำมายื่นในวันนี้ก็เป็นเอกสารต่างๆ รวมถึงเอกสารการที่ กกท. ให้สมาคมต่างๆ กู้ยืมเงินโดยขัดต่อระเบียบกระทรวงการคลัง และขัดต่อความถูกต้อง จึงต้องการให้ทางตำรวจ ปปป.เข้ามาตรวจสอบในเรื่องนี้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดทั้งขบวนการ