“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 7 มีนาคม 2566 ตอน กกต.ดมกลิ่น เอาผิดพรรคการเมือง จ้างสมัครสมาชิกพรรค
ขณะนี้ ระหว่างรอการยุบสภา จากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หลายพรรคการเมืองกำลังเร่งรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งกันอย่างหนัก มีการคัดเลือกตัวผู้สมัครส.ส.เขต และเร่งรัดออกนโยบายพรรคในการเลือกตั้งไปถึงประชาชน
การเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ ของพรรคการเมือง จุดหนึ่งที่ทุกพรรคต้องไม่เผลอ และระมัดระวังให้มากก็คือ ต้องไม่ไปทำอะไรที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ให้เอาผิดพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรค โดยเฉพาะถ้าความผิดนั้น รุนแรง ก็อาจเสี่ยงถึงขั้นถูกร้องยุบพรรคได้
ประเมินแล้ว เมื่อถึงโหมดการเลือกตั้งเต็มตัวจะมีการจับผิด ร้องเรียนให้เอาผิดผู้สมัครส.ส. และพรรคการเมืองตามมาเป็นหางว่าว จับจ้องไปที่การหาช่องร้องให้ยุบพรรคการเมือง -ตัดสิทธิการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ที่หากใครพลาดมา รับรองได้ โดนฝ่ายตรงข้าม เสียบแน่
ที่ผ่านมาหากดูจากแฟ้มสำนวนที่ร้องไปยังกกต.พบว่ามีพรรคการเมือง แกนนำพรรคการเมืองต่างๆ เคยถูกร้องไปที่กกต.เช่น
“พรรคเพื่อไทย”ที่มีคนร้องไปหลายเรื่องเช่น กรณี ทักษิณ ชินวัตร ไลฟ์ในวงสนทนาของกลุ่ม CARE ตอบโต้คนวิพากษ์วิจารณ์นโยบายพรรคเพื่อไทย เรื่องขึ้นค่าแรง 600 บาท ที่ถูกร้องว่าเพื่อไทย ยอมให้บุคคลที่ไม่เป็นได้สมาชิกพรรค คือทักษิณ มา ชี้นำ ครอบงำ ขัดกฎหมายพรรคการเมืองหลายมาตรา โดยปมนี้ ศรีสุวรรณ จรรยา ไม่พลาด พี่ศรีร้องไปที่กกต.นานแล้ว
หรือกรณี อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ว่าที่แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ปราศรัยที่ จ.อุดรธานี เมื่อ15 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า จะพานายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีหมายจับศาลฎีกาหลายคดี กลับบ้านโดยเรื่องนี้ สนธิญา สวัสดี ยื่นร้องไว้กับกกต.
ส่วน”พรรคพลังประชารัฐ”ก็มีเรื่องสุ่มเสี่ยงอยู่คือ กรณี ทุนจีนสีเทา ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานนันท์ หรือ “ตู้ห่าว” บริจาคเงินเข้าพรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท เมื่อปี 2564 ที่อาจโดนเอาผิดเรื่องรับเงินบริจาคที่มีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเงินสีเทา ที่มีบทลงโทษถึงขั้นกกต.สามารถเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคได้ โดยเรื่องนี้อาจเป็นจุดตายพลังประชารัฐก็ได้ เจ้าเก่า
ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นเรื่องไว้นานแล้ว
ขณะที่ “พรรคก้าวไกล”ที่ทุกก้าวย่างโดนจับตามองเสมอโดยเฉพาะจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง อย่างเรื่องที่พรรคก้าวไกล ออกมาระบุว่าในช่วงเลือกตั้ง จะมีนโยบายเสนอให้แก้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็ถูกคนจากพรรคไทยภักดี ไปยื่นร้องกกต.ดักไว้แล้วว่า
เป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามมาตรา 92 ของกฎหมายพรรคการเมือง
และยังมีกรณีตั้งสามอดีตแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ที่คือก้าวไกลในปัจจุบัน ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล -ช่อ พรรณิการ์ วานิช ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสิทธิการเมืองสิบปี มาเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้พรรคก้าวไกล ก็เป็นจุดเสี่ยงไม่น้อยสำหรับก้าวไกล
เนื่องเพราะฝ่ายตรงข้ามเห็นว่า ธนาธร ไปมีบทบาทเกินกว่าการเป็นผู้ช่วยหาเสียงเช่น ขึ้นเวทีปราศรัยแล้วพูดปราศรัยชี้นำพรรค เช่น บอกให้ทำนโยบายอะไรต่างๆไปยุ่มย่ามเรื่องการคัดเลือกคนลงสมัครส.ส.ของก้าวไกล แบบนี้อาจถูกร้องว่าเข้าข่ายชี้นำพรรค เพราะออฟไซด์เกินกว่าการเป็นผู้ช่วยหาเสียง
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็มีเช่นกัน กับกรณี ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ปราศรัยพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการปราศรัยใหญ่ที่ นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่ศรีสุวรรณ ไปร้องกกต.แล้วว่า อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งส.ส.และระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและ ลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.ฯ
อันนี้แค่เฉพาเรื่องที่ร้องคาไว้ แต่เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งเต็มตัว จะมีมาอีกเพียบ ที่สำคัญ เมื่อเร็วๆนี้ กกต.คลอด ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด ฉบับใหม่ล่าสุดออกมาเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ถูกมองว่าเป็นระเบียบที่ทำให้ การพิจารณาเรื่องร้องเรียนว่าผู้สมัครส.ส.หรือพรรคการเมือง ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมายพรรคการเมืองรวดเร็วขึ้นในการชี้ถูกชี้ผิด
มันจึงเป็นข้อควรระวังของผู้สมัครรับเลือกตั้งและพรรคการเมือง ที่ต้องพลาดไม่ได้ เพราะคดีจะไปเร็วกว่าที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวว่า เวลานี้ กกต.และทีมงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด กำลังจับตาเรื่อง การซื้อตัวหรือให้เงินประชาชน เพื่อให้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
ยิ่งปัจจุบันการส่งคนลงเลือกตั้งส.ส. ต้องทำไพรมารีโหวต ต้องเรียกประชุมสมาชิกพรรคแต่ละจังหวัดมาทำไพรมารีโหวต โดยบางพรรคหาสมาชิกไม่ทัน เลยใช้วิธีจ้างให้เงินประชาชนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และจ่ายค่าสมัครสมาชิกพรรครายปีให้ด้วย
เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมืองมาตรา 30 ที่มีบทลงโทษคนทำผิด ทั้งจําคุก-ปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกําหนดห้าปี
ต่อไปอาจมีการลงโทษในประเด็นนี้ กกต.กำลังตามกลิ่นการทำผิดอยู่
---------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1