MGR Online - ผบ.ตร.แถลงผลเปิดยุทธการทลายอาณาจักร "ซัว มาเฟียคาสิโนออนไลน์" ยึดทรัพย์ 1.4 พันล้าน เผยออกหมายจับสารวัตรซัว ข้อหาฉ้อโกงประชาชน
วันนี้ (3 มี.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก) เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ 8) ปฏิบัติราชการสอบสวนกลาง แถลงผลเปิดยุทธการทลายอาณาจักร "ซัว มาเฟียคาสิโนออนไลน์" ของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว สามารถจับกุม นายธีรพงศ์ ทองสุวรรณ หรือนายจิ๋ว อายุ 34 ปี คนสนิทสารวัตรซัว ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.161/2566 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” และผู้ต้องหาบัญชีม้าได้อีก 5 ราย ประกอบด้วย นายอนุวัฒน์ คงสมพงษ์ อายุ 23 ปี นางอำภา กระเช้าเพ็ชร อายุ 54 ปี น.ส.เกศกนก บัวแดง อายุ 29 ปี นายนรินทร มีคำ อายุ 32 ปี และ นายชาตรี ไพศาลชนากิจ อายุ 38 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาฯ, ร่วมกันฟอกเงิน” และตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อ Lexus, Benz, Audi จำนวน 3 คัน , โฉนดที่ดินจำนวนรวมกว่า 446 ไร่ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท, สมุดบัญชีธนาคาร 184 บัญชีพบเงินหมุนเวียนจำนวน 700 ล้านบาท และ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวน 100 รายการ รวมมูลค่ารวมกว่า 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ได้มีตรวจค้นเครือข่ายขบวนการดังกล่าวในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพิ่มเติม โดยยึดเงินสดประมาณ 20 ล้านบาท และยาเสพติด (ยาเค) จำนวน 30 กรัม
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ตำรวจมีข้อมูลทางการสืบสวน ชัดเจนว่า นายธีรพงศ์ เป็นผู้ถือหุ้น หลายบริษัทที่อยู่ในเครือเป็นต่อกรุ๊ป และยังมีประวัติถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงเงิน แอร์โฮสเตส คนหนึ่ง โดยทางการสืบสวนพบว่า นายธีรพงศ์ เข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะ มีชื่อเป็นผู้รับเงิน จากบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงเงินจากแอร์โฮสเตส จำนวน 5 ล้านบาท คดีท้องที่ สน.ทองหล่อ เมื่อขยายผลเส้นทางการเงิน จึงพบความเชื่อมโยงของนายธีรพงศ์ มีการสั่งจ่ายเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์กว่า 300 ล้านบาทให้กับกลุ่มบุคคลอื่นๆ
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทในเครือเป็นต่อกรุ๊ป ส่วนใหญ่ จัดทำบริษัทผลิตเกมส์ , ผลิตโปรแกรม, พัฒนาซอฟต์แวร์,จัดการบัญชี,จดทะเบียนพาณิชย์, จัดการการเงิน และทำการตลาด ซึ่งผลการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า มีบริษัทกว่า 30 แห่ง ที่อยู่ในเครือเป็นต่อกรุ๊ปมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ เบื้องต้น ได้ระงับการดำเนินกิจการไว้ทั้งหมดแล้ว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์เชิงลึกของ สารวัตรซัว ในอดีตเริ่มจากการเป็นเจ้าของเว็บพนันจากนั้นได้ซื้อแพลตฟอร์มเว็บพนันจากต่างประเทศ มาพัฒนาต่อและจัดขาย ให้กับกลุ่มที่ทำธุรกิจเว็บพนันออนไลน์ และมีในลักษณะแบ่งเปอร์เซ็นต์ด้วย ข้อมูลที่พบขณะนี้ มีเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องหว่า 400 เว็บไซ์ ซึ่งดำเนินการปิดไปแล้ว ประมาณ 200 เว็บไซต์ ในจำนวนนี้จะมีเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาเก๊า 888 หรือไม่ สันนิษฐาน อยู่คนละเครือข่ายกัน แต่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลต่อ
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวด้วยว่า สำหรับผลปฏิบัติการการตรวจค้นวันนี้ ตรวจยึดทรัพย์จากผู้ต้องหาได้มากกว่า 100 รายการ อาทิรถยนต์ราคาแพง 3 คัน , โฉนดที่ดินรวมกว่า 440 ไร่ , สมุดบัญชีธนาคารอีก 184 บัญชี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 100 รายการ และยังพบยาเสพติดเป็นยาเค 30 กรัม ในการตรวจค้นที่สมุทรปราการด้วย ซึ่งรวมมูลค่าของกลางทั้งหมด กว่า 1400 ล้านบาท
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนการติดตามตัวสารวัตรซัว มีหมายจับร่วมกันฉ้อโกง และร่วมจัดให้มีการเล่นการพนัน แต่ตัวสารวัตร ยังอยู่ในต่างประเทศ ขณะที่การสืบสวนกรณีมีตำรวจยศ พลตำรวจโท นายหนึ่ง เกี่ยวข้องกับสารวัตรซัว อยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ในเบื้องต้น ยังไม่พบความเชื่อมโยงทั้งหลักฐานและเส้นทางการเงิน ไปยังสารวัตรซัว แต่ยืนยัน หากตรวจสอบพบไม่มีละเว้น
ทั้งนี้ ระหว่างการแถลงข่าว นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองได้เดินทางมาสังเกตุการแถลงข่าว พร้อมกล่าวขอบคุณผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกนาย
โดย นายชูวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนสารวัตรซัวขณะนี้มีข้อมูลว่าเจ้าตัวได้มีคำสั่งให้เครือข่ายที่อยู่ในไทยเร่งย้ายฐานซอฟแวร์ออกนอกประเทศ เพราะตำรวจกำลังเร่งกวาดล้าง หากใครไม่ยอมทำตามเมื่อถูกจับก็จะไม่รับผิดชอบ หรือ พูดง่ายๆว่าคูณโดนทิ้งแล้ว และ เจ้าตัวก็กำลังเสวยสุขอยู่ที่ต่างประเทศ
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งบุคคลใกล้ชิดสารวัตรซัวหากจะไม่เอ่ยชื่อก็คงไม่ได้ คือ นายจิรวัฒน์ โพธิ์สุวรรณ หรือ เปา ถือหุ้นแทนสารวัตรซัว ที่อาบอบนวด ลาลิซ่า และเชื่อว่ากำลังเตรียมตัวจะหนี แต่ก็มั่นใจว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ก็คงเร่งตามจับตัว เพราะมีความเชื่อมโยงไปถึง แต่อาจต้องใช้เวลาเพราะเครือข่ายสารวัตรซัวค่อนข้างใหญ่มาก และเชื่อว่ารูปแบบการทำงานของตำรวจสอบสวนกลางไม่ใช่แค่จับโชว์ 2-3 วันแล้วเงียบหายอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวน นายจิ๋ว รับสารภาพว่า บริษัททั้งหมด 11 บริษัทที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจค้นนั้นเป็นของสารวัตรซัว โดยนำชื่อตนไปเป็นกรรมการ อย่างไรก็ตามนายจิ๋วให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่สามรถขยายผลไปถึงสารวัตรซัวและเครือข่ายที่เหลือต่อไป
รายงานแจ้งว่า สำหรับนายจิ๋ว เป็นประธานกรรมการ/กรรมการ/ผู้ถือหุ้น/อดีตผู้ถือหุ้น ถึง 11 บริษัทดังนี้
บริษัท กะเพรา เอ็กซ์เพรส จำกัด
บริษัท เป็นต่อกรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด
บริษัท เป็นต่อ ทรานสปอร์ต
บายเป็นต่อกรุ๊ป จำกัด
บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้น 2 จำกัด
บริษัท เป็นต่อ เอ็กซ์เช้นจ์ จำกัด
บริษัท เป็นต่อ เอสเตท จำกัด
บริษัท พีทีจี ซอพต์แวร์ จำกัด
บริษัท พีที ซอฟแวร์ บายเป็นต่อ
กรุ๊ป จำกัด
บริษัท สน็อคโค เทคโนโลยี จำกัด
บริษัท ไอ แคปบิตอล โฮลดิ้ง จำกัด
และสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นต่อกรุ๊ป จำกัด