รองโฆษกอัยการเผย อัยการสูงสุด ตั้งคณะทำงานตรวจคดีดัง 5 ชุด เป็นระดับว่าที่ อสส.เชื่อใจได้ หากพบคำสั่งไม่ฟ้อง มีข้อบกพร่องจะดำเนินการตามระเบียบ ส่วนถึงขั้นรื้อคดีหรือไม่ อยู่ที่พยานหลักฐานใหม่
วันนี้ (2 มี.ค.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผย กรณีน.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด มีคำสั่งให้ตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีสำคัญ ที่อัยการผู้รับผิดชอบคดี มีคำสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่คดีเผาสวนงูภูเก็ต , คดีของนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ กับพวก , คดีซี.พี.เค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กับพวก หรือคดีที่บริษัทเครือของนายเปรมชัย กรรณสูต ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกป่า , คดีของนายแทนไท ณรงค์กูล กับพวก , คดีบ่อนพนันออนไลน์มาวินเบตดอทคอม , และคดีจับยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน 400,000 เม็ดที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบรวม 5 คณะ โดยเร่งด่วน
รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีการตรวจสอบ เนื่องมาจากทีมงานของอัยการสูงสุดได้ตรวจสอบข่าวต่างๆ ที่มีการนำเสนอต่อสื่อมวลชน และจากบุคคลหลายส่วนรวมถึงนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่มายื่นเรื่องร้องเรียนต่ออัยการสูงสุด และคณะทำงานเห็นว่าเป็นคดีที่อาจมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กร จึงต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าคำสั่งและสำนวนคดีเป็นไปด้วยความถูกต้องหรือไม่ และอาจมีการเรียกพนักงานอัยการเจ้าของสำนวน ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือสื่อมวลชนที่มีการเผยแพร่ข่าว เข้ามาให้ข้อมูลด้วย โดยหากพบว่ามีประเด็นใดที่บกพร่องก็จะรายงานต่ออัยการสูงสุดโดยเร็วที่สุด ซึ่งคาดว่ากรอบระยะเวลาจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน
ส่วนพนักงานอัยการ เจ้าของสำนวนคดี เบื้องต้นยังไม่ความผิดใด แต่หากการตรวจสอบสำนวน พบข้อบกพร่อง ก็ต้องนำเสนออัยการสูงสุดพิจารณาก่อนว่าจะดำเนินการทางวินัยอย่างไรหรือไม่ ส่วนจะถึงขั้นมีการรื้อคดีหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาตามข้อกฎหมายว่า เข้าหลักเกณฑ์ การขอรื้อคดีหรือไม่ เช่น จะต้องพบพยานหลักฐานใหม่ ซึ่งกฎหมายมีแนวทางไว้ให้อยู่แล้ว
ทั้งนี้เมื่อถามว่า เหตุใดจึงไม่เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก หน่วยงานอื่นๆ เข้ามาช่วยตรวจสอบ แทนที่จะให้อัยการตรวจสอบอัยการด้วยกันเอง
รองโฆษกอัยการสูงสุดกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกอาจไม่ทราบถึงระเบียบและแนวทางการทำงานของพนักงานอัยการเท่าคณะทำงานที่แต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งคณะนี้เป็นว่าที่อัยการสูงสุดหลายท่าน ที่จะมาทำงานสานต่อภารกิจจากอัยการสูงสุดคนปัจจุบัน ซึ่งกำลังจะหมดวาระในอีกประมาณ 7 เดือน ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและไว้วางใจคณะทำงานชุดนี้