ไฟไหม้ร้านขายสีย่านคูคต สาวนักเรียนกนอกลูกสาวเจ้าของร้านหนีเข้าห้องน้ำถูกไฟคลอกดับ ส่วนแม่ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 22 ก.พ.2566 ร.ต.อ.เทียนชัย ใหม่เอี่ยม ร้อยเวรสอบสวนสภ.คูคต ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ร้านขายสี บริเวณริมถนนลำลูกกามุ่งหน้ากรุงเทพมหานคร ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมบุญจิตร รองผกก.สอบสวน สภ.คูคต รถดับเพลิงเทศบาลเมืองลาดสวายและรถดับเพลิงใกล้เคียงจำนวนกว่า 20 คัน เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่มไทรลำลูกกา รถดับเพลิงกองทัพอากาศ แพทย์เวรโรงพยาบาลภูมิพล
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นครึ่ง เลขที่ 12/8-9 ซึ่งเป็นร้านขายสี พบไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงได้ช่วยกันใช้น้ำฉีดเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังอาคารพาณิชย์ข้างเคียง ตรวจสอบภายในอาคารพบสุนัข 2 ตัวอยู่ชั้นดาดฟ้าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำลงมาปฐมพยาบาลเบื้องต้น และพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง รายท ทราบชื่อนางสาวธัญวรัตน์ ใจจ้อง อายุ 25 ปีซึ่งเป็นลูกสาวเจ้าของร้าน เสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำชั้น2 ของอาคารดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 รายทราบชื่อนางจันทิมา ใจจ้อง อายุ 54 ปี เจ้าหน้าที่อาสาร่มไทรลำลูกกานำส่งโรงพยาบาลสายไหม
จากการสอบเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสัตว์ได้ให้ข้อมูลว่าขณะเกิดเหตุโรงพยาบาลไม่มีคนอยู่ มีเพียงสัตว์เลี้ยงอยู่ชั้น3 ซึ่งมีเพื่อนบ้านโทรศัพท์ไปบอกตนเองว่าร้านขายสีที่ติดกับโรงพยาบาลสัตว์ไฟไหม้ให้รีบมาดู ตนจึงมาและเรียกกู้ภัยให้มาช่วยลำเลียงสัตวออกมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกอบจ.จังหวัดปทุมธานี ได้มาดูในที่้เกิดเหตุ
ด้าน จ.ส.ต.ภิญโญ พุกภิญโญ อายุ 52 ปี น้องชายเจ้าของร้าน บอกว่าตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร จึงขอนำกำลังมาช่วยดับไฟเพราะเป็นร้านของพี่สาวตนเองพราะเป็นร้านขายสีด้วยและก็เหตุการณ์ไม่คาดฟันก็เกิดขึ้นหลานสาวเสียชีวิตอยู่ในห้องน้ำและจบปริญญาโทพึ่งมาจากต่างปรพเทศได้เพียง 5 วันเท่านั้น ปกติก็จะมีการญาติและระหว่างเกิดเหตุพี่สาวอยู่กับหลานสาวเพียงสองคนเท่านั้น
ด้าน ร.ต.อ.เทียนชัย ใหม่เอี่ยม ร้อยเวรสอบสวนสภ.คูคต หลังจากตรวจสอบจึงได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและได้กั้นพื้นที่เกิดเหตุเอาไว้ก่อนพร้อมทั้งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน1เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้งนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลภูมิพลเพื่อตรวจสอบ
