MGR Online - กรุ๊ปทัวร์รายย่อยร้องกองปราบดำเนินคดีบริษัททัวร์ชื่อดัง ตุ๋นจัดท่องเที่ยวญี่ปุ่น สุดท้ายเชิดเงินหนี เสียหายกว่า 14 ล้าน
วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ และ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายทินกร วัฒนกุลเทพ ตัวแทนจากบริษัทโซร่า แทรเวล และ ตัวแทนผู้เสียหายจากบริษัทนำเที่ยวรายย่อยจำนวนกว่า 10 แห่ง ยื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัททัวร์แห่งหนึ่ง หลังมีพฤติกรรมหลอกขายทัวร์พาไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายกลับไม่สามารถเดินทางได้ตามที่กล่าวอ้าง ก่อนจะบริษัทดังกล่าวจะเชิดเงินหนีไปกว่า 14 ล้านบาท
นายรณณรงค์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการนำเที่ยว หรือ บริษัททัวร์รายย่อย จำนวนหลายบริษัท ว่าได้ซื้อทัวร์กับผู้ประกอบการรายใหญ่ชื่อดังแห่งหนึ่งเพื่อจะเอาไปจำหน่ายต่อให้กับนักท่องเที่ยวรายย่อย แต่เมื่อใกล้ถึงกำหนดกลับถูกบริษัททัวร์รายใหญ่ดังกล่าว ประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ยกเลิกทัวร์ โดยไม่มีการจ่ายเงินคืนให้ จนบริษัททัวร์รายย่อยเหล่านี้ได้รับความเดือดร้อน เพราะต้องยอมควักเงินทุนจ่ายคืนให้กับผู้บริโภคหรือลูกทัวร์เอง ซึ่งการกระทำแบบนี้เข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน วันนี้จึงพาผู้เสียหายมาร้องกองปราบให้ช่วยตรวจสอบพฤติกรรมของบริษัททัวร์รายใหญ่เจ้านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้กระทำการในลักษณะแบบนี้กับบริษัทย่อยอื่นที่จะส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ตามมา
ด้าน นายทินกร กล่าวว่า ตนมีนักท่องเที่ยวอยู่ในมือจำนวนหนึ่งที่ต้องการไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่เนื่องจากมีงบน้อยไม่สามารถพาไปเองได้ จึงไปติดต่อบริษัททัวร์แห่งนี้ที่จัดโฮเซลโปรแกมต่างๆ จำนวนมากที่อ้างว่ามีตั๋วรวมทั้งโรมแรมที่พักในราคาพิเศษได้ เพื่อซื้อมาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการ แต่พอใกล้ถึงวันเดินทางบริษัทกลับแจ้งยกเลิกกระทันหันอ้างเหตุผลต่างๆ นานา รวมถึงไม่มีการโอนเงินกลับคืน สร้างความเสียหายให้กับบริษัทของตนเป็นอย่างมาก เพราะต้องจัดทัวร์ขึ้นมาเองใหม่เพื่อแก้ปัญหาให้ลูกทัวร์ได้เดินทางตามที่ซื้อเอาไว้ โดยจำเป็นต้องซื้อตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่พักในราคาที่แพงขึ้น
นายทินกร กล่าวต่อว่า จากการสอบถามทราบว่า บริษัทดังกล่าวมีพฤติการณ์แบบนี้มาตั้งแต่ตอนช่วงโควิด จนถึงเวลานี้ก็ยังไม่หยุด แถมมีการขายล่วงหน้าอีกจำนวนมาก ในส่วนบริษัทฯ ของตนเกิดความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท รวมผู้เสียหายที่มาวันนี้กว่า 400 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 14 ล้านบาท ก่อนหน้าเคยไปแจ้งเรื่องร้องเรียนต่อกรมการท่องเที่ยวเพื่อให้ถอนใบประกอบการ แต่ทางกรมฯ ปฏิเสธไม่รับเรื่อง อ้างว่าเป็นความเสียหายทางแพ่ง แนะนำให้ไปฟ้องร้องกันเอง วันนี้จึงตัดสินใจรวมตัวกันมาเข้าแจ้งความกองปราบ
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้ทยอยสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนส่งต่อให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป