ล้วงคองูเห่า !หนุ่มตกงานแอบบวชเณรหน้าไฟ ก่อนชวนพระจริงในวัดทำเรื่องขอบินฑบาตรเรี่ยไรกับปลัดอำเภอบางใหญ่ สอบประวัติพบเคยถูกจับสึกยังไม่ถึง 7 วันฐานเรี่ยไรไม่ได้รับอนุญาต ถูกซ้อนแผนรวบทันควัน
วันนี้( 9 ก.พ)เมื่อเวลา 14.00 น. ที่วัดราษฎร์ประคองธรรม อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายสมพล สุระสัจจะ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอบางใหญ่ นายธานี พิกุลทอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ อส.บางใหญ่ ได้ควบคุมตัวนายบุญค้ำ โลเคนแก้ว อายุ 45 ปี หลังแต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เข้าไปขอรับบินฑบาตร ข้าวสาร อาหารแห้งและปัจจัยอื่นๆที่ศูนย์ดำรงค์ธรรม อำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังหลอกพระสงฆ์อีก 2 รูปใน จ.สระบุรี ให้เดินทางมาร่วมรับกิจนิมนต์ด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายบุญค้ำ ไม่ใช่พระสงฆ์จริงจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่วัดราษฎ์ประคองธรรม โดยมีพระมหาวิศรุต นริสสโร เลขาเจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ ร่วมตรวจสอบ ก็พบว่านายบุญค้ำ เคยถูกจับสึกในข้อหาเรี่ยไรมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดถูกจับสึกที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 ที่ผ่านมา
นายสมพล กล่าวว่าสืบเนื่องจากนายบุญค้ำได้แต่งกายเลียนแบบพระสงฆ์เดินทางมาที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อทำเรื่องขอเรี่ยไรข้าวสาร อาหารแห้งและปัจจัยอื่นๆ โดยมีการนำใบอนุโมทนาบุญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า ของวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูและนัดมารับบินฑบาตรในวันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งมันผิดปกติที่พระลูกวัดจากต่างจังหวัดจะเดินทางมาขอรับบินฑบาตรที่อีกจังหวัดหนึ่ง จึงประสานไปที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนนทบุรีให้ช่วยตรวจสอบ จนทราบว่านายบุญค้ำ ไม่ได้เป็นพระสงฆ์จริงและเพิ่งถูกจับสึกไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 ที่ผ่านมาข้อหาเรี่ยไร จากนั้นจึงวางแผนทำที่เป็นอนุญาตให้มารับบินฑบาตรที่อำเภอได้ ก็ปรากฎว่านายบุญค้ำ เดินทางมาพร้อมพระสงฆ์รวม 3 รูป จึงแสดงตัวขอตรวจสอบก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่วัดราษฎ์ประคองธรรม
โดยนายบุญค้ำให้การรับสารภาพว่าไม่ใช่พระจริง ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นพระและมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาเรี่ยไรใน จ.ปทุมธานี ก่อนถูกจับสึกหลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปขอบวชหน้าไฟที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.สระบุรี แต่ไม่เคยอยู่ที่วัดดังกล่าวเลย ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะต้องการนำของที่ได้จากการบินฑบาตรในครั้งนี้ไปใช้ดำรงชีพตัวเอง เนื่องจากไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจทำเรื่องดังกล่าว ส่วนพระสงฆ์อีก 2 รูปที่มาด้วยตนก็หลอกว่ามีกิจนิมนต์ที่อำเภอบางใหญ่ เพื่อที่จะได้ดูน่าเชื่อถือเวลาเดินทางมารับบินฑบาตร
ด้านพระสงฆ์ทั้ง 2 รูปที่ถูกหลอก กล่าวว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้จักกับนายบุญค้ำแต่อย่างใด จนเมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 นายบุญค้ำ ได้ขับรถเดินทางมาที่วัดพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อมาขอเจ้าอาวาสวัดบวชเณรหน้าไฟ ทางวัดจึงบวชให้หลังบวชเสร็จนายบุญค้ำก็เดินทางกลับไปไม่ได้พักอยู่ที่วัด หลังจากนั้นอีก 2-3 วันนายบุญค้ำ ได้เดินทางกลับมาที่วัดอีกครั้งหนึ่ง พร้อมพูดจาชักชวนหว่านล้อมให้อาตมาทั้ง 2 รูป ร่วมเดินทางมารับกิจนิมนต์ที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอบางใหญ่ในวันนี้ ซึ่งตนก็ได้ถามแล้วว่ามีการขออนุญาตจากเจ้าคณะจังหวัดหรือยัง นายบุญค้ำบอกว่าทำเรื่องขออนุญาตถูกต้องหมดทุกอย่างแล้ว จึงหลงเชื่อเดินทางมาด้วย
นายธานีกล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากทางศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอบางใหญ่ ให้ช่วยตรวจสอบพระสงฆ์ที่เข้ามาทำเรื่องขอรับบินฑบาตรที่อำเภอ ก็รีบทำการตรวจสอบเอกสารต่างๆ ที่นายบุญค้ำนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ดูทั้งใบอนุโมทนาบุญของวัดใน จ.เชียงใหม่ บัตรประจำตัวพระสงฆ์ ก็พบว่านายบุญค้ำถูกจับสึกไปเมื่อวันที่ 4 ก.พ.66 ที่ผ่านมาในข้อหาเรี่ยไร จึงแจ้งไปที่อำเภอบางใหญ่ว่านายบุญค้ำไม่ใช่พระสงฆ์ดังที่กล่าวอ้าง ก่อนวางแผนเข้าตรวจสอบและจับกุมตัวดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายบุญค้ำส่งพนังงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และหากประชาชนคนไหนที่เคยได้รับความเสียหายถูกนายบุญค้ำหลอกลวงสามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ได้ทันที