ผกก.สภ.บางแม่นาง จ.นนทบุรี ยอมรับ4 ชายฉกรรจ์ที่เป็นข่าวในโซเชียลขู่ รปภ.เป็นตำรวจสายสืบ ลูกน้องตัวเองมาทำคดีตามหมายจับตามผู้ต้องหาหนีเข้ามาในหมู่บ้าน ก่อนเข้าพบนิติหมู่บ้านเพื่อขอโทษ พร้อมยอมรับผิด เรียก 4 ตร.มาอบรมเรื่องมารยาทการใช้วาจากับประชาชน
จากกรณีกลุ่มชายอ้างเป็นตำรวจ ขอเข้าหมู่บ้านเจอ รปภ.สกัดขอให้แลกบัตรตามกฎระเบียบหมู่บ้าน กลุ่มชายไม่ยอม ยืนปะทะคารมกันอยู่พักใหญ่ ก่อนเปิดเสื้อโชว์ปืนขู่ให้ระวังตัว
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 9 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี สอบถามกรณีดังกล่าวกับทางพ.ต.อ.ธรรศกร ก้อนทอง ผกก.สภ.บางแม่นาง กล่าวว่า ช่วงบ่ายของวันนี้ ตนได้สั่งการให้ รอง ผกก.สืบสวน ลงพื้นที่พูดคุย ทำความเข้าใจกับตัวแทนนิติบุคคลของหมู่บ้าน พร้อมยืนยันว่ากลุ่มชายทั้ง 4 คน ที่ปะทะคารมกับ รปภ.ของหมู่บ้าน เป็นชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบของ สภ.บางแม่นาง จริง ลงไปปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทางนิติบุคคลไม่ได้ติดใจอะไร แต่ทั้งนี้ ยังไม่ได้พบกับ รปภ.คู่กรณี เรื่องจากวันนี้ รปภ.คนดังกล่าวไม่ได้มาปฏิบัติหน้าที่
พ.ต.อ.ธรรศกร กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มชายที่ปรากฏในคลิป เป็นชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ตามหมายจับ หลังได้เบาะแสพบผู้ต้องสงสัยเข้าไปในหมู่บ้านดังกล่าว จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ รปภ.ไม่อนุญาตให้เข้า ทั้งที่แสดงแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทางตำรวจขอติดต่อกับนิติบุคคล เพื่อทำความเข้าใจในการจะขอเข้าพื้นที่ แต่ทาง รปภ.ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อ จึงทำให้เกิดการปะทะโต้เถียงกัน ส่วนประเด็นที่คู่กรณีอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนข่มขู่นั้น จากคลิปหลักฐานของทั้งสองฝ่าย ยังไม่พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผกก.ได้ขอโทษที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม และได้เรียกตำรวจทั้ง 4 นาย มาตักเตือนเรื่องกิริยา และคำพูดแล้ว จากนี้ หากคู่กรณีประสงค์ที่จะพูดคุยกับตำรวจทั้ง 4 นาย หรือเรียกร้องค่าเสียหายที่ต้องหยุดปฏิบัติงานไปนั้น ก็สามารถติดต่อเข้ามาที่ สภ.บางแม่นาง ได้ ทั้งนี้ ผกก.ขอให้คู่กรณีไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะตำรวจ มีหน้าที่ดูแลประชาชนอยู่แล้ว
ขณะที่เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายยุทธนา ร่วมใจ รปภ.คู่กรณี ได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะคู่ดรณีเป็นตำรวจในพื้นที่