ศาลอาญาสั่งจำคุก “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” กับพวกรวม 3 คน พยายามช่วยหลบหนี เป็นการละเมิดอำนาจศาล คนละ 4 เดือน แต่ให้การรับสารภาพ ลดโทษเหลือจำคุกคนละ 2 เดือนไม่รอลงอาญา
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ลศ.1/2566 ที่ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหา นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จำเลยคนสำคัญคดีฉ้อโกงประชาชนหมายเลขดำอ.3121/65 นายสมประสงค์ ทิพย์สุคนธ์ และ น.ส.กัญญามาส ทองปาน เลขาฯส่วนตัวนายประสิทธิ์ กับพวกรวม 3 คน เป็นผู้ถูกกล่าวหา
คดีนี้สืบเนื่องจาก ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา รายงานเสนอว่า เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2565 ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ซึ่งถูกควบคุมตัวตามหมายขังของศาล ให้นายสมประสงค์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 จัดเตรียมเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า และอื่นๆมาส่งให้นายประสิทธิ์ที่ห้องน้ำชายชั้น 9 อาคารศาลอาญา และให้น.ส.กัญญามาส ผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 เตรียมเงินสดจำนวน11,000 บาท มามอบให้นายประสิทธิ์ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ที่ห้องพิจารณา 903 เพื่อใช้หลบหนี แต่เจ้าพนักงานจับกุมผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ขณะหลบหนี จึงรายงานต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา โดยศาลมีคำสั่งเรียกไต่สวนตามคำกล่าวหา
วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2-3 มาศาลตามนัด ส่วนนายประสิทธิ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ศาลดำเนินการประชุมทางจอภาพ (วิดีโอคอนเฟอเรนซ์) ไปยังเรือนจำ
ศาลได้สอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามแล้วให้การรับสารภาพตามคํากล่าวหา
ศาลพิเคราะห์รายงานของ ผอ.สำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ประกอบคำรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามแล้ว เชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 พยายามหลบหนีการควบคุมของศาล โดยผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นำเสื้อผ้ามาส่งให้ในห้องน้ำของศาล และผู้ถูกกล่าวหาที่ 3 ส่งเงินให้ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 เพื่อใช้ในการหลบหนี
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามเป็นการประพฤติตนไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล มีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31 (1), 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหาทั้งสาม คนละ 4 เดือน ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก คนละ 2 เดือน ให้ออกหมายตามผลคำพิพากษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายประสิทธิ์ เป็นอดีตประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน นักธุรกิจพันล้านเจ้าของเครือข่ายธุรกิจหลายกลุ่มเป็นกรรมการบริษัทเป็น 10 แห่ง ที่มีทุนจดทะเบียนแต่ละที่หลักร้อยล้าน มีชื่อเสียงขึ้นมาหลังออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลังขบวนการ IO ของกองทัพ เป็นการทำความดี ที่ต้องการให้ประชาชนรู้เท่าทันข่าวปลอม โดยมีลักษณะประชาสัมพันธ์ทหาร และโจมตีผู้วิจารณ์รัฐบาล ก่อนจะโดนคดีฉ้อโกงประชาชน ตรวจสอบคดีนายประสิทธิ์กับพวกในส่วน บช.ก. ในคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชน พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน และ พ.ร.บ.คอมพ์ ตามคำสั่งพนักงานสอบสวนกลาง ได้มีการดำเนินคดีได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการหมดแล้ว
ซึ่งก่อนหน้านี้นานประสิทธิ์เเละพวกได้มีการวางเเผนหลบหนีในวันที่ 22 ธ.ค.2565 ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดสอบคำให้การคดีหลอกลงทุนสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจบริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด ความเสียหาย 1,000,009 บาท ซึ่งเป็นคดีใหม่ที่เพิ่งมีการยื่นฟ้อง
ในส่วนข้อหาร่วมกันกระทำการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลฯ หลุดพ้นจากการคุมขังไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 191 วรรคแรก ประกอบมาตรา 83 นั้นผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการช่วยเหลือถูกดำเนินคดีเเยกออกไป วันนี้เป็นในส่วนของคดีละเมิดอำนาจศาล