xs
xsm
sm
md
lg

หมายจับ “จารุพงศ์” อดีต หน.เพื่อไทย เบี้ยวนัดศาลคดีรับตั๋วเครื่องบิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งออกหมายจับ “จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ไปศาลตามนัดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในคดีเรียกรับผลประโยชน์เป็นตั๋วเครื่องิบินเมื่อครั้งเป็น มท.1 ชี้ มีพฤติการณ์หลบหนี

วันนี้ (7 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง มีคำสั่งให้ออกหมายจับ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คดีหมายเลขดำที่ อม.14/2565 ที่นายจารุพงศ์ถูกฟ้องกล่าวหาว่ารับผลประโยชน์เป็นตั๋วเครื่องบินมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

คดีดังกล่าว ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพิจารณาครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ในวันดังกล่าว นายจารุพงศ์ จำเลยไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุผลมีพฤติการณ์น่าจะหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับไว้

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้ง นายจารุพงศ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมพวก ได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์อันไม่ควรได้ตามกฎหมาย โดยปรากฏข้อเท็จจริงว่าปี 2555 นายจารุพงศ์ กับพวก เดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยสายการบินไชน่าแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ราคาคนละ 39,000 บาท ต่อมาปี 2556 เดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ด้วยสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ราคาคนละ 20,000 บาทเศษ รวมมูลค่าที่ได้รับไปเกือบ 60,000 หมื่นบาท

นอกจากนั้น ในเวลาต่อมา นายจารุพงศ์ กับพวก ได้เรียกเก็บค่าเดินทางจากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ ทั้งที่นายจารุพงศ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีความสัมพันธ์โดยตรง หรือควบคุมดูแลบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทแห่งนี้มิใช่รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ แม้นายจารุพงศ์เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามกฎหมายจะรักษาการประธานบอร์ดการประปา แต่นายจารุพงศ์ไม่สามารถเรียกเงินดังกล่าวได้ ถือเป็นการเรียกรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดเกินกว่า 3,000 บาท ตามระเบียบ หรือประกาศของ ป.ป.ช. มีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 103


กำลังโหลดความคิดเห็น