รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ รีดดาราไต้หวัน เรื่องจริงตำรวจชั่ว สะเทือนเก้าอี้ ผบช.น.
และแล้ว ความจริงก็ปรากฏแบบไม่มีพลิกโผ ตำรวจไทยก็เป็นตำรวจไทย อย่างที่เราๆ ท่านๆ รู้กัน “มือหนึ่งถือเตารีด มือหนึ่งถือคันไถ”
7 ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ยอมเปิดปากสารภาพแล้ว ว่าร่วมกันรีดไถดาราสาวไต้หวัน 27,000 บาทจริง
หลังจากก่อนหน้านี้ มีการดิ้นสู้อย่างหนัก ขุดหลักฐานกล้อง CCTV หรือกล้องวงจรปิด จากตรงโน้นตรงนี้ ย้อนหลังไปหลายวันอีกต่างหาก เจตนาเพื่อดิสเครดิต ทำลายน้ำหนักพยานของดาราสาว
รวมถึงไปปั้นพยานรถแท็กซี่ ออกมาให้การให้เป็นประโยชน์กับฝ่ายตำรวจ
จนกระแสประณามตำรวจตอนแรก เริ่มตีกลับ มีคนไทยบางส่วนแห่ไป “ทัวร์ลง” ในอินสตาแกรมของ “อันหยูชิง” ดาราสาวไต้หวัน อย่างดุเดือด ด่าว่าเธอมันขี้โกหกตอแหล
เล่นเอาฝ่ายดาราสาวอึ้ง โพสต์ว่า ทำไมเรื่องราวมันถึงหักมุมไปได้อย่างนี้
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ผู้กว้างขวางวงการตำรวจ เป็นคนแรกๆ ที่รู้ข่าวตำรวจเลวสารภาพแล้ว เขาโพสต์ฟาดเลยว่า ตำรวจทำเป็นกระบวนการ เพื่อสร้างเรื่องให้ร้ายผู้เสียหาย
พฤติกรรมที่แสบมาก คือ ถึงขั้นสั่งลบคลิปกล้องวงจรปิด ตรงจุดเกิดเหตุ หน้าสถานทูตจีน รวมถึงกล้องติดหมวกของตำรวจทุกนาย
ตรงนี้ จึงเป็นคำตอบให้หลายๆ คนต้องร้องอ๋อ ถึงว่าสิ ตำรวจนครบาลที่เก่งกาจ ควานหากล้องวงจรปิดย้อนหลัง ได้จากแทบทุกจุดที่ดาราสาวเยื้องกรายผ่านไป รู้แม้กระทั่งไปกินเหล้า สั่งอะไรมากินบ้าง บิลค่าเหล้ากี่บาท
กลับไม่มีกล้องวงจรปิด ตรงจุดเกิดเหตุ อันเป็นหลักฐานที่แน่นหนาที่สุด ซึ่งก็เป็นกล้องที่ฝ่ายดาราสาว ท้าให้เปิดดูได้เลย แล้วทุกคนจะได้เห็นความจริง
เช่นเดียวกับการกักตัวนักท่องเที่ยวไว้คาด่านกว่า 40 นาที ก็เป็นเวลาที่ยาวนานอย่างผิดสังเกต แม้จะไม่ถึง 2 ชั่วโมง อย่างที่ดาราสาวบอกก็ตาม
โดยนายชูวิทย์ ชี้เลยว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เจ้าเก่า เป็นคนใช้ไม่ได้ ฝากให้ตำรวจคนนี้ ดูแลคนกรุงเทพฯ ไม่ได้
เพราะแทนที่จะเอาจริงกับตำรวจรีดไถนักท่องเที่ยว ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศ ดันไปแต่งเรื่องเพื่อปกป้องคนผิด ทำลายเครดิตคนเป็นเหยื่อ
และฟันธง หากนายกรัฐมนตรี และ ผบ.ตร. ยังอุ้ม ผบช.น.คนนี้ต่อไป จะยังมีระเบิดลงในนครบาลอีกเป็นลูกระนาด
ทั้งนี้ ที่มาของการยอมสารภาพของแก๊งตำรวจชั่ว สน.ห้วยขวาง เป็นเพราะ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการสอบสวนแบบ “ดับเบิ้ลเช็ก” ไม่รอแต่รายงานจาก ผบช.น.
มีการนัดหมายดาราสาว เพื่อบินไปพูดคุยสอบถามถึงตัวที่ไต้หวัน พร้อมกันนี้ ก็ควานหาประจักษ์พยานรายอื่น
ปรากฏว่า ไปเจอสาวไทย ที่เป็นเพื่อนกับดาราสาวไต้หวัน ให้การยืนยันว่า ด่านเถื่อน สน.ห้วยขวาง รีดเงินไปจริงๆ 27,000 บาท โดยเธอช่วยจ่ายเงินให้เอง
พอตำรวจนครบาล รู้ว่าทีมของผบ.ตร. เจาะถึงความจริงแล้ว ดิ้นหนีไม่รอดแล้ว ถึงยอมสารภาพ
เรื่องนี้ จึงเป็นความเลวร้ายซ้ำซากของตำรวจนครบาล ตั้งแต่เรื่องช่วยผู้ต้องหาคดีผับจินหลิงของมาเฟียตู้ห่าว จนมาถึงตั้งด่านเถื่อน รีดไถนักท่องเที่ยวข้างถนน
จากคดีจีนเทา ถึงคดีจีนไต้หวัน ซึ่งตำรวจสมคบกันทำลายหลักฐาน และสร้างพยานเท็จ จึงเห็นได้ว่า พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง สมควรหมดเวลาได้แล้ว เหมือนอย่างที่นายชูวิทย์ว่าไว้
ความเสียหายจากการก่อเหตุรีดไถหนนี้ สร้างความเสียหายร้ายแรงให้ชื่อเสียงประเทศไทย ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวอย่างย่อยยับ
พอเกิดเรื่อง แทนที่จะสอบสวนหาความจริง เพื่อแก้ไขสิ่งผิด กลับกลายเป็นสอบสวนเพื่อแก้ตัว พลิกกลับดำเป็นขาว อะไรจะเลวร้ายได้ถึงเพียงนี้ ตำรวจนครบาลยุคนี้
ขณะที่สื่อที่รับงานตำรวจ มาทำลายดาราสาวไต้หวัน ก็ควรแสดงความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมของตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะออกหน้าช่วยฝ่ายตำรวจเลวอย่างแข็งขัน
แทนที่จะเห็นใจผู้ตกเป็นเหยื่อ กลับเล่นข่าวใส่สี จนเหยื่อกลายเป็นคนผิด โดน “ทัวร์ลง” เละ ซะอย่างนั้น
บทสรุปของงานนี้ ต้องปรบมือชื่นชม ผบ.ตร. ที่รู้ทันเกมของนครบาล การกดดันไล่บี้จนแก๊งตำรวจเลวสารภาพ ก็คงฟื้นฟูความเชื่อมั่นในองค์กรตำรวจได้บ้าง
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1