MGR Online - ทนายความ “นอท กองสลากพลัส” เข้าดีเอสไอ แจงเส้นทางการเงิน 1,090 ล้านบาท ที่ถูกโอนเข้าบัญชี 39 ครั้ง พัวพันธุรกิจสีเทาหรือไม่ ยันชี้แจงได้หมด เป็นเงินจากการทำธุรกิจถูกกฎหมาย ส่วนคดีฟอกเงินพนันออนไลน์ 53 ล้านบาท สรุปสำนวน ก.พ.นี้
วันนี้ (26 ม.ค.) เวลา 10.40 น. ที่ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายศุภชัย ทิพย์สิทธิ์ ทนายความของ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เดินทางเข้าพบ นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด เพื่อนำหลักฐานเส้นทางการเงิน 39 รายการ จำนวนเงินรวมกว่า 1,090 ล้านบาท ที่พบเชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทา เป็นคดีพิเศษที่ 6/2566 ภายหลังดีเอสไอเรียกขอตรวจสอบเพิ่มเติม
น.ส.พิทยาภรณ์ ชูรัตน์ รองโฆษดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้ นายพันธ์ธวัช ได้ส่งให้ทนายความมาชี้แจงแทน และมอบหลักฐานข้อมูลเส้นทางการเงินดังกล่าวให้กับดีเอสไอ เพื่อตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องโอนเงินเข้าบัญชีของนายพันธ์ธวัช เส้นทางการเงิน 39 รายการ ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบข้อสงสัยก็อาจจะเรียกมาชี้แจงเพิ่มเติม โดยต้องรอทางทนายความของนายพันธ์ธวัชให้การก่อน
น.ส.พิทยาภรณ์ เผยว่า ส่วนคดีพิเศษ 288/2565 เกี่ยวข้องจำนวนเงิน 53 ล้านบาท ที่นายพันธ์ธวัช รับโอนมาจากผู้กระทำความผิดคดีฟอกเงินพนันออนไลน์ โดยดีเอสไอได้เรียก นายพันธ์ธวัช มาชี้แจงครบถ้วนทั้งหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลหลักฐานว่าสอดคล้องกับหลักฐานที่ธนาคารส่งมาให้หรือไม่ โดยในคดีนี้ได้ออกหมายเรียกพยาน 7 ราย มาให้ข้อมูลถึงเส้นทางการเงิน ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร และมาให้ข้อมูลแล้ว 5 ราย ส่วนอีก 2 ราย ไม่มาให้การจึงขออนุมัติศาลออกหมายจับ และขณะนี้ยังหลบหนีอยู่
“สำหรับ นายพันธ์ธวัช ที่เดินทางไปต่างประเทศเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ยังอยู่ในฐานะพยานและไม่ใช่ผู้ต้องหา ดีเอสไอไม่สามารถไปจำกัดการเดินทาง หรือสิทธิเสรีภาพได้” น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าว
น.ส.พิทยาภรณ์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา แม้ว่า นายพันธ์ธวัช จะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและออกมายืนยันทุกช่องทางว่าไม่เกี่ยวข้องนั้น แต่หากมีหลักฐานเส้นทางการเงินชัดเจนก็สามารถดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนการถ่ายภาพร่วมของนายพันธ์ธวัช กับบุคคลอื่นในเครือข่ายพนันออนไลน์นั้นไม่ผิดกฎหมายแต่ถ้ามีหลักฐานเชื่อมโยงก็จะเรียกมาสอบปากคำเช่นกัน
ต่อมา เวลา 11.50 น. นายศุภชัย ทนายความของนายพันธ์ธวัช เปิดเผยหลังพบดีเอสไอ ว่า วันนี้เข้ายื่นเอกสารหลักฐานที่ได้รับมอบหมายจากนายพันธ์ธวัช ให้มาชี้แจงเส้นทางการเงิน 39 รายการ เป็นจำนวนเงินเข้าออกบัญชีของนายพันธ์ธวัชเอง แต่มันเป็นเงินก้อนใหญ่ จึงต้องเข้าชี้แจง หลังจากนี้ คงต้องรอดูทางดีเอสไอก่อนว่าจะมีอะไรการเรียกสอบถามเพิ่มเติมหรือไม่ หากมีเรียก นายพันธ์ธวัชและตนก็ยินดีให้ความร่วมมือ
“ยืนยันว่า เส้นทางการเงิน 39 รายการนั้น สามารถชี้แจงได้หมด และเป็นเงินที่มาจากธุรกิจที่ทำโดยชอบด้วยกฎหมายแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” เคยอ้างว่าเดินทางไปขึ้นรางวัลที่ 1 ด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่ปรากฏว่า มี 2 รอบให้ “นาย อ.” ผู้ต้องหาคดี 288/2565 ขึ้นรางวัลที่ 1 แทน และจ่ายแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับ คือ 42 ล้านบาท และ 11 ล้านบาท รวม 53 ล้านบาท โอนให้ นายพันธ์ธวัช จึงเป็นข้อมูลคลาดเคลื่อนกันว่าเหตุใดให้บุคคลอื่นขึ้นเงินแทน ขณะนี้ “นาย อ.” ได้รับประสานขอเข้ามอบตัวแล้ว รวมถึง ดีเอสไอ จึงเรียกเจ้าตัวมาสอบปากคำดังกล่าวเพราะเส้นทางการเงินเชื่อมโยงชัดเจน และอยู่ระหว่างพิจารณาว่า นายพันธ์ธวัช มีส่วนกระทำความผิดด้วยหรือไม่ โดยสำนวนคดี 288/2565 จะเร่งรัดให้เสร็จ ส่งอัยการสั่งฟ้องภายในเดือน ก.พ. 66
นอกจากนี้ ดีเอสไอ ดำเนินการตรวจสอบบัญชี นายพันธ์ธวัช ปรากฏว่า เจออีก 39 เส้นทางการเงิน ซึ่งมีลักษณะเดียวกับแคชเชียร์เช็ค 2 ฉบับดังกล่าว จึงเรียก นายพันธ์ธวัช ให้นำเอกสารมาชี้แจงเพิ่มเติมในวันนี้ (26 ม.ค.) ว่า เส้นทางการเงินทั้ง 39 รายการ มีที่มาอย่างไรบ้าง จึงมีการตั้งเลขคดีใหม่ คดีพิเศษที่ 6/2566 เพื่อตรวจสอบบัญชี กลุ่มนายทุนและแพลตฟอร์มธุรกิจลอตเตอรี่ออนไลน์ ทั้งนี้ พบว่า อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนายทุนให้กู้ทำธุรกิจสีเทา คือ นายเอ็ดดี้ กับ นายแทนไท หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน จากนั้นจะเรียกบุคคลมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือหากมีพฤติการณ์ชัดเจนก็อาจจะมีการแจ้งข้อหาได้ทันที